นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อกรณี ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ต้องพ้นจากสถานภาพ ส.ส. และรัฐมนตรี เนื่องจากต้องคำพิพากษาของศาลในต่างประเทศ ไม่ใช่ศาลไทยว่า สิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับคือกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่คนไทยทั้งประเทศต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ถ้าใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสินคงไม่สามารถยึดใช้ได้ เพราะต่างคนก็ต่างความคิดเห็น อย่างนายทักษิณ ชินวัตร โกงกินประเทศไปมหาศาล มีความผิดทางกฎหมายชัดเจน แต่ทำไมยังมีคนพอใจนิยมนายทักษิณ เพราะฉะนั้นเรื่องของบ้านเมือง จะใช้ความรู้สึกมาตัดสินไม่ได้ และกฎหมายรัฐธรรมนูญระบุชัดว่า แห่งราชอาณาจักรไทย เพราะฉะนั้นความผิดที่เกิดขึ้นที่ต่างประเทศไม่สามารถบังคับใช้ได้ เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลและพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ยื่น ป.ป.ช.สอบจริยธรรม นายสิระ กล่าวว่า ประเด็นนี้ใครจะยื่นก็ได้ ไม่จำกัดสิทธิที่จะยื่น แต่เรื่องจริยธรรมกับกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นคนละเรื่องกัน
“บรรดานักการเมืองที่ออกมาสาระแน โวยวายเรื่องนี้ ให้ย้อนกับไปดูว่าแต่ละคนลงตอนลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ลงอย่างไรให้กับ ร.อ.ธรรมนัส อย่างผู้เฒ่าคนหนึ่งหรือหัวหน้าพรรคบางพรรค ก็ลงมติงดออกเสียง ซึ่งถ้า ร.อ.ธรรมนัส ไม่ดีก็ต้องลงมติไม่ไว้วางใจ เรื่องนี้เป็นเรื่องแหกตาชาวบ้าน มีอะไรซับซ้อนอีกเยอะ ตนขอตั้งข้อสังเกตุว่า ทำไมไม่ยื่นเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว ตอนนี้การแสดงความคิดเห็นที่มีลักษณะหมิ่นอำนาจศาล วิพากษ์วิจารณ์ ให้ศาลเกิดความเสียหาย ระวังคุกรออยู่ จะแก่หรือเคยมีตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหน ก็เข้าคุกได้ เวลาจะวิพากษ์วิจารณ์ใครต้องย้อนกลับไปดูหัวหน้าพรรคบางคน ที่มีลูกพรรคค้ายาเสพติด ไม่เห็นกล้าออกมาพูดว่าจะรับผิดชอบอย่างไร”
ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบที่แต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส นั้น นายสิระ กล่าวต่อว่า เรื่องคดีนี้เกิดขึ้นในอดีต ไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ คนทุกคนสมควรได้รับโอกาส อย่าเอาอดีตมาบูลลี่กัน ซึ่งระหว่างที่อยู่ในตำแหน่ง ร.อ.ธรรมนัส ไม่เคยมีพฤติกรรมทุจริต ประพฤติมิชอบ ซึ่งมีนักการเมืองหลายคนมาโกงกินระหว่างมีอำนาจ เอาเวลาไปลงโทษคนพวกนั้นจะดีกว่า คนเราควรให้โอกาสคนทำงาน อดีตไม่สามารถลบได้ แต่ขอให้ดูที่ปัจจุบัน
แสดงความเห็น
