“เศรษฐพงค์”เผย ECSTAR จับมือ “ไทยคม” ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ แลกเปลี่ยนความรู้-บุคลากร หวังยกระดับนวัตกรรมเพื่อรองรับเศรษฐกิจอวกาศใหม่ (New Space Economy) ต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน-ประเทศชาติ
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีอวกาศและวิจัย (ECSTAR) หรือ ศอว. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านทาง ECSTAR ได้มีการร่วมทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอวกาศ อากาศ และภาคพื้นดิน กับ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เสริมศักดิ์ อยู่เย็น รักษาการแทนคณบดี วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากอธิการบดี และ นายเอกชัย ภัคดุรงค์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลยุทธ์องค์กร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของความเข้าใจร่วมกันในความร่วมมือครั้งนี้ เนื่องจาก ECSTAR มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการด้านวิชาการ การพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ รวมทั้งการวิจัยในอุตสหกรรมการบินและอวกาศ และการสร้างองค์ความรู้ในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการเทคโนโลยีอวกาศ อากาศ และภาคพื้นดิน และ ไทยคม เป็นเอกชนที่ทำธุรกิจอวกาศรายใหญ่ของประเทศมีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการในระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมและการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ รวมถึงดิจิทัลแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกิจอวกาศ โดยทั้งสองฝ่ายได้มีความประสงค์ร่วมกันที่จะเดินหน้าเพื่อการพัฒนาวิทยาการอวกาศและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการวิจัย เพื่อการบูรณาการเทคโนโลยีอวกาศ อากาศ และภาคพื้นดิน รวมถึงการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี โครงการ และบริการด้านการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีจากอวกาศต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อช่วยยกระดับความสามารถในด้านกิจการอวกาศและดาวเทียมของประเทศ รองรับการก้าวเข้าสู่การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจอวกาศใหม่ (New Space Economy) และการพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมอวกาศในระดับภูมิภาคและเอเชียแปซิฟิกต่อไป
“ทั้งสองฝ่ายจะให้การสนับสนุนบุคลากร เครื่องไม้เครื่องมือ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการเพื่อการบูรณาการในเทคโนโลยีอวกาศ อากาศ และภาคพื้นดิน อย่างครบทุกมิติ รวมถึงการพัฒนาด้านนวัตกรรมอวกาศ เทคโนโลยีอวกาศ โครงการ และการให้บริการต่าง ๆ แก่ภาคประชาชน โดยมุ่งเน้นที่การดำเนินการด้านต่าง ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควรอันเป็นประโยชน์ มีประสิทธิภาพ และส่งผลสัมฤทธิ์ที่มีประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน สังคม และเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว
แสดงความเห็น
