“เศรษฐพงค์” ห่วง วิกฤตน้ำท่วมใต้ แนะ ใช้เทคโนโลยีอวกาศช่วยแจ้งเตือนภัยพิบัติ

“เศรษฐพงค์” ห่วง วิกฤตน้ำท่วมใต้ แนะ ใช้เทคโนโลยีอวกาศช่วยแจ้งเตือนภัยพิบัติ-วิเคราะห์ความเสี่ยง เชื่อช่วยลดความสูญเสีย ประเมินสถานการณ์ได้เร็ว-แม่นยำมากขึ้น ชี้ พัฒนาต่อยอดไปเรื่องอื่นๆได้อีก

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.  พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีอวกาศและวิจัย (ECSTAR) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยใน จ.ยะลาและ จ.นราธิวาส ว่า รัฐบาลเองต้องพยายามทำงานให้ดีขึ้นในแง่ของการเตือนภัยและวิเคราะห์สถานการณ์ ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ได้มีแนวนโยบายที่จะพัฒนาในเรื่องนี้ โดยปัจจุบันเมื่อเกิดภัยพิบัติ หรือ ภัยธรรมชาติ กรมอุตุนิยมวิทยา ที่มีหน้าที่โดยตรงในการแจ้งเตือน และวิเคราะห์สภาพภูมิอากาศ เพื่อส่งต่อข้อมูลให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ให้เตรียมตัวรับมือกับภัยธรรมชาติ แต่ในระยะหลังนี้ มีเทคโนโลยีอวกาศ อย่างภาพถ่ายดาวเทียม มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล กรณีเกิดภัยธรรมชาติ โดยหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญ ในการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ คือสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยี อวกาศ และภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ซึ่งตรงนี้เราสามารถพัฒนาและต่อยอดไปยังเรื่องอื่นๆได้อีกด้วย

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า การใช้ภาพถ่ายดาวเทียม สามารถวิเคราะห์พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ทิศทางการไหลของน้ำ และประเมินความเสี่ยงได้ รวมถึงยังทำให้สามารถวิเคราะห์พื้นที่ในการอพยพประชาชนได้ ซึ่งจะทำให้สามารถช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น รวมถึงจะทำให้เจ้าหน้าที่บริหารจัดการเพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้รุนแรงได้ ที่สำคัญคือสามารถนำมาใช้ในการเตือนภัยล่วงหน้า เพื่อลดความเสี่ยงของภัยพิบัติ และอันตรายที่จะเกิดขึ้น ลดความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านได้มาก นอกจากนี้ ภาพถ่ายดาวเทียม ยังมีการบันทึกเป็นช่วงเวลาสามารถย้อนหลังได้เป็นสิบปี จะทำให้เราสามารถนำข้อมูลมาเปรียบเทียบได้ในการประเมินภัยพิบัติต่างๆไม่ใช่แค่เฉพาะอุทกภัยเท่านั้น ในเรื่องของปัญหาภัยแล้งและการจัดการน้ำ เทคโนโลยีนี้ก็ยังมีประโยชน์อย่างมาก

“ภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกของเรามีหลายหลายรูปแบบ ทั้งอุทกภัย ไฟป่า ปัญหาฝุ่นควันและภัยแล้ง การมี “เทคโนโลยีอวกาศ” จะช่วยเป็นเหมือนดวงตาสังเกตการณ์ คอยเฝ้าระวังและแจ้งเตือนทุกภัยพิบัติ โดยหลายประเทศก็นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้งานกันอย่างกว้างขวางแล้ว ซึ่งจะทำให้เราสามารถเห็นภาพรวมต่างๆได้กว้างขึ้นกว่าเดิม หากเราสามารถพัฒนารูปแบบการแจ้งเหตุภัยพิบัติที่รับรู้โดยทั่วกัน จะช่วยลดความสูญเสีย และเสียหายอันเกิดจากธรรมชาติได้อย่างมหาศาล ซึ่งทาง สจล.และ ECSTAR เองก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของอุปกรณ์และบุคลากร ซึ่งเราก็หวังว่าในอีกไม่นาน เราจะมีเทคโนโลยีและบุคคลากรที่สามารถช่วยพัฒนาประเทศชาติได้ต่อไป” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว

แสดงความเห็น