“วิษณุ” บอก ไม่แปลกศาลเรียกดูบันทึกการประชุม กรธ. ชี้ เอกสารหลุด เกิดขึ้นได้ในทุกคดี 

“วิษณุ” บอก ไม่แปลกศาลเรียกดูบันทึกการประชุม กรธ. ระบุ ถึงอย่างไรต้องทำให้ทุกอย่างกระจ่าง ชี้ ปมเอกสารหลุด เกิดขึ้นได้ในทุกคดี ยัน ไม่ได้คุยกับ “มีชัย” ย้ำ ปรับครม.ช่วงรักษาการนายกฯทำได้แต่ไม่ง่าย 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่ 501 ซึ่งรับรองบันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 500 โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันอังคารที่ 13 ก.ย. ว่า ไม่ทราบ ตนไม่รู้ว่าศาลพูดอะไรอย่างไรกันบ้าง แต่เมื่อมันเป็นประเด็นออกมาจึงเรียกมาดูอีกที ถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่ศาลเรียกดูบันทึกการประชุมของ กรธ. ศาลอาจจะอยากรู้ว่าในการประชุมเป็นอะไรอย่างไร ไม่ถือว่าแปลกประหลาดอะไร แค่มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนติดใจเขาก็เรียกให้แล้ว ทั้งนี้ การพิจารณาของศาลไม่มีกำหนดเวลา สามารถพิจารณาไปได้เรื่อยๆ แต่กรณีแบบนี้ดูท่าแล้วคงจะไม่มีพิจารณาไปเรื่อยๆ เห็นบอกว่าวันที่ 14 ก.ย.หมดเขตที่จะส่งเอกสารแล้ว อาจจะพิจารณาได้ตั้งแต่วันนั้นหรือวันรุ่งขึ้นเลย แต่พิจารณาจบหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ    

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของรัฐบาลจะมีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี ศาลไม่ได้เรียกอะไรเพิ่มเติมจากรัฐบาล และรัฐบาลไม่มีอะไรที่จะชี้แจงแล้ว ตนเชื่อว่าศาลจะไม่เรียกอะไรจากรัฐบาลแล้ว

เมื่อถามว่า การที่มีเอกสารหลุดออกมาจะมีผลกระทบอะไรกับรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนยังคิดไม่ออกว่าจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ เพราะการที่จะมีเอกสารหลุดออกมามันเกิดขึ้นได้ในทุกคดี จริงๆ แล้วมันคือคำให้การที่ยื่นไป ไปผ่านคนตั้งเยอะแยะ ฉะนั้น การหลุดออกมาไม่ได้แปลกประหลาดอะไร เมื่อถามย้ำว่า มันอาจจะมีผลกระทบกับรัฐบาล เพราะการที่เอกสารหลุด อาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามทำข้อมูลยื่นไปเพิ่มเติมเพื่อหักล้างคำชี้แจง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรต้องทำความจริงให้กระจ่างแจ้ง เป็นการดีที่สุด อย่าไปคิดอะไรมาก เมื่อถามว่า กรณีที่ศาลรับคำร้องแล้ว ผู้ร้องจะสามารถยื่นคำร้องเพิ่มเติมได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้แล้ว เว้นแต่ศาลจะเรียก 

เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เกี่ยวกับการบันทึกการประชุม กรธ. ที่มีการโต้แย้งนายมีชัยว่ามีการรับรองบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 แล้วหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่เคยคุยกับนายมีชัย แม้จะถูกมองว่าอยู่ก๊วนเดียวกัน ไม่เคยคุย ไม่เคยปรึกษาใดๆ ทั้งสิ้น ยืนยันได้ เมื่อถามย้ำว่า บันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 500 กับครั้งที่ 501 มันต่างกันอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ตอบแล้ว เพราะพูดเรื่องนี้กันทุกวันแล้ว เมื่อศาลเรียกแล้วของจริงเป็นอย่างไรก็ส่งไป ชัดเจนอยู่ในนั้น ตนก็ไม่เคยเห็น ไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร เห็นแต่หนังสือที่เขาแจกกันที่เป็นแนวทางตีความรายมาตรา ซึ่งเขาแจกทุกคน เป็นบันทึกเกี่ยวกับเจตนารมณ์มาตราต่างๆ และรัฐบาลใช้ตัวนี้อ้างไป

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มีการสั่งการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ในช่วงที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้คุยอะไรกันเลย และ พล.อ.ประยุทธ์คงไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่จะไปติดต่อกับใคร 

เมื่อถามว่า มองบรรยากาศการเมืองที่มันอึมครึมอย่างนี้อย่างไร นายวิษณุ ไม่อึมครึมหรอก เหตุมันเกิดอยู่เรื่อย หมดเรื่องนี้ก็ไปเรื่องนู้น ไปเรื่อยเป็นธรรมดาทุกวัน ไม่มีปัญหาอะไร เดี๋ยววันที่ 18 ก.ย.สภาปิดสมัยประชุมแล้ว การเมืองในสภาคงเบาหรอก แต่ข้างนอกสามารถเคลื่อนไหวกันได้ 

เมื่อถามว่า กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่วินิจฉัย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนนายกฯ สามารถที่จะตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าโดยทฤษฎีนั้นทำได้ แต่ในทางปฏิบัติถ้าจะทำมันก็มีหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ถ้าจะตอบว่าทำไม่ได้มันก็ผิด จึงต้องตอบว่าทำได้ แต่อย่าไปแสดงว่าทำได้เดี๋ยวจะทำแล้ว มันไม่ใช่ เพราะถ้าทำได้ง่ายๆ ที่ว่างมา 2 ตำแหน่งคงจะทำไปแล้ว ทำไมไม่ปรับล่ะ แสดงว่ามันยาก มันมีความยุ่งยากอะไรอยู่ในทางปฏิบัติ ไม่อย่างนั้นเขาทำไปนานแล้ว

เมื่อถามว่า ถ้าดูแล้ว พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ เพื่อทำหน้าที่การประชุมเอเปค เสร็จแล้วยุบสภาหรือลาออกแบบไหนจะดีกว่ากัน นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าลาออกต้องหานายกฯใหม่ โดยเข้าสภาเลือกนายกฯใหม่ แต่ถ้ายุบสภาไม่ต้องหานายกฯใหม่ แต่ตนยังยืนยันว่าการยุบสภามันจะทำให้เกิดความยุ่งยาก ในเมื่อกฎหมายลูกมันยังไม่ประกาศใช้ เมื่อถามว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้มาเป็นประธานการประชุมเอเปค ภาพของประเทศไทยมันน่าจะดีกว่าใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่อยากชี้นำอะไร แต่เห็นว่ามันน่าจะภาคภูมิใจมากกว่า เพราะประเทศเขาคงจะคิดว่าการที่เขาเดินทางมาประชุมเอเปคจะต้องมาเจรจากับใคร 

แสดงความเห็น