อนุทิน ตรวจความพร้อม ‘ศูนย์แรกรับและส่งต่อ ผู้ป่วยโควิด อาคารนิมิบุตร พร้อมรับผู้ป่วย พรุ่งนี้ ย้ำ ต้องเป็นผู้ป่วยที่มีผลว่าติดเชื้อแต่ยังรอการหาเตียงรักษาอยู่เท่านั้น มั่นใจภายใน 1 สัปดาห์ ไม่มีผู้ป่วยตกค้างแน่นอน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ อาคารนิมิบุตร กรมพลศึกษา เพื่อตรวจดูความพร้อมของ ‘ศูนย์แรกรับและส่งต่อ กระทรวงสาธารณสุข’ หรือ แอดมิชชั่น เซ็นต์เตอร์ เพื่อช่วยแบ่งเบาผ่อนคลายภาระกรุงเทพมหานคร สำหรับภาวะผู้ป่วยตกค้างที่ไม่สามารถมีรถมารับผู้ป่วยได้ทันเวลา
โดยนายอนุทิน ระบุว่า ศูนย์แรกรับฯแห่งนี้ จะมีกรมการแพทย์เป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลผู้ป่วย เพื่อช่วยผู้ป่วยที่ยังนั่งรอเตียงอยู่ที่บ้าน โดยจะเน้น ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพราะ ปัญหาส่วนใหญ่ยังเกิดขึ้นอยู่ใน กทม. ส่วนในจังหวัดอื่นๆในประเทศไทยนั้นระบบสาธารณสุขสามารถรองรับได้
โดยสถานแรกรับนี้ คือแรกรับผู้ป่วย ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อแล้ว และยังรอเตียงอยู่เท่านั้น ซึ่งสามารถโทรศัพท์ประสานเข้ามาแจ้งที่หมายเลข 020791000 มีทั้งหมด 40 คู่สาย แต่คนที่โทรเข้ามา จะต้องเป็นผู้ป่วยติดเชื้อสำหรับการให้เจ้าหน้าที่ไปรับ และส่งโรงพยาบาลเท่านั้น หรือจะเดินทางมาเองที่ศูนย์แรกรับฯ ก็ได้ และขอให้คนที่โทรเข้ามามีปัญหายังไม่มีเตียงจริงๆเท่านั้น เพราะจะมีการคัดกรองอีกรอบ ซึ่งศูนย์แรกรับ จะมีการประสานงานไปยังโรงพยาบาลต่างๆ และส่งไปโรงพยาบาลนั้นๆ ทั้งกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว สีเหลือง และสีแดง แต่หากเตียงโรงพยาบาลเต็มจริงๆ ก็จะมีเตียงอยู่ภายในอาคารแห่งนี้เพื่อรองรับ 200 เตียง มั่นใจว่าภายใน 1 สัปดาห์จากนี้ไป จะไม่มีผู้ป่วยตกค้างอยู่ที่บ้านแน่นอน
นายอนุทิน ยังบอกอีกว่า ที่ศูนย์แรกรับ ไม่ใช่มาแล้วที่นี่แล้วจะได้พัก แต่จะกระจายเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาล และไม่ให้ญาติมาเยี่ยมจะให้สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อเท่านั้น และขอย้ำว่า หากใครที่มีโรงพยาบาลติดต่อไปประสานหาเตียงให้แล้วให้รอจากโรงพยาบาลนั้นตามระบบก่อน แต่หากรอ 3-4 วันแล้วยังไม่ได้เตียงก็สามารถติดต่อมาที่ศูนย์แรกรับฯ ได้ ซึ่งจะเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และมีเตียงรวมถึงอุปกรณ์พร้อมสำหรับผู้ป่วยในกลุ่มสีเหลืองด้วย ซึ่งศูนย์แรกรับฯ จะเริ่มรับผู้ป่วยได้ในวันพรุ่งนี้ ส่วนจะมีสถานที่เป็นศูนย์แรกรับและส่งต่ออีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้ามีความจำเป็นก็ต้องเปิด เพราะได้เตรียมอินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมากไว้แล้ว แต่จะพยายามไม่ให้มีโอกาสที่จะเปิดอีก เพราะสถานการณ์ทุกอย่างต้องค่อยๆลดลงตามวงรอบ และยืนยันว่าจะไม่มีผู้ป่วยขาดเตียงแน่นอน
สำหรับความพร้อมในวันนี้ มีการนำอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เข้ามาเซ็ทระบบ ทั้งรถเอ็กซเรย์ระบบดิจิทัล พระราชทาน และรถเอ็กซเรย์ดิจิทัลรวม 3 คัน รถโมบายสำหรับการประสานงานของ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. รถฉุกเฉิน และรถตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และจัดเตรียมเตียงไว้รองรับผู้ป่วย 200 เตียง ซึ่งจะแบ่งเป็นชั้น 1 จำนวน 60 เตียง ไว้สำหรับนอนรอเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาล และชั้น 2 อีก 140 เตียง
ขณะที่นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข บอกด้วยว่า ขั้นตอนในการรับผู้ป่วย คือ ผู้ป่วยที่ได้รับผลยืนยันการตรววจว่าติดเชื้อโควิด-19 และยังไม่ได้รับการประสานหาเตียง ก็ให้โทรมาที่คอลเซ็นเตอร์ เพื่อสอบถามและแจ้งได้ก่อน และสามารถวอคอิน แบบขับรถมาเองก็ได้ แต่หากเป็นผู้ป่วยกลุ่มที่โรงพยาบาลแจ้งว่าจะมารับแล้วแต่อยู่ระหว่างเตียง และเป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวก็ยังไม่ต้องมา เมื่อมาถึงจะได้รับการตรวจ วัดความดันไข้ วัดอุณหภูมิไข้ และออกซิเจนในเลือดตามขั้นตอน จากนั้นก็จะเช็คประวัติอาการ และทำการเอ็กซเรย์ และหากผลแลปไม่แน่ใจอาจจะต้องทำการตรวจสอบอีกรอบได้ พร้อมย้ำด้วยว่า ศูนย์แรกรับและส่งต่อ ไม่รับตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ที่อาจสงสัยว่าจะติดเชื้อ ทั้งนี้จะจัดสรรให้แล้วเสร็จภายในวันต่อวัน ถ้าหากผู้ป่วยมาดึกส่งไปไม่ได้ก็ให้นอนที่ศูนย์แรกรับชั่วคราวก่อนจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลในวันถัดไป
แสดงความเห็น
