ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่างถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศแก้กฎกระทรวง กำหนดให้ผู้ครอบครองยาบ้า 1 เม็ดเป็นผู้เสพ และผู้ครอบครองยาบ้า 2 เม็ดขึ้นไปเป็นผู้ค้า จะทำให้เกิดผู้ต้องขังล้นคุกหรือไม่ ว่า ในอดีตกรณีของคนที่มียาบ้า 5 เม็ด หากถูกตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ป.ป.ส. จับกุม ก็จะมีการสอบถามคนนั้นว่าจะสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาหรือไม่ หากไม่สมัครใจก็ต้องถูกส่งฟ้องศาล และถูกคุมขัง แต่ถ้าเปลี่ยนมาเป็นกรณีของคนที่มียาบ้าครอบครอง 1-2 เม็ด ก็จะทำให้คนเหล่านั้นถูกส่งเข้าคุมขังทั้งหมด และถูกส่งฟ้องศาล ซึ่งศาลจะพิจารณาว่าเป็นผู้เสพ หรือเป็นผู้ค้า อย่างไรก็ตามในวันนี้เราคิดว่าหากมีการใช้ยาแรง มันก็เป็นสถานการณ์ในช่วงเวลานี้ ที่เป็นช่วงรอยต่อจะมีการเลือกตั้ง ที่อาจทำให้ไม่มีคนดูแลฟื้นฟู เพราะการฟื้นฟูและบำบัดจะทำไม่ทัน ซึ่งการบำบัดและรักษาเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่รมว.สธ. ก็คงเห็นว่า แพทย์และพยาบาลหรือบุคลากรสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง ถ้าจะต้องมาเจอกับคนที่ติดยาบ้าแล้วมีอาการหลอน เป็นจำนวนมาก ก็อาจเป็นอันตรายต่อบุคลากรของเขา จึงคิดว่าควรจะเอาคนที่เสพยาบ้าส่งเข้าห้องขังไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรสาธารณสุข จากสิ่งเหล่านี้จึงทำให้รมว.สธ. ตัดสินใจอย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวนายสมศักดิ์ เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องรอดูผล ตนไม่มีสิทธิที่จะบอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ทำให้เห็นว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะบำบัดผู้เสพได้ทัน ตนเห็นว่า แนวทางของรมว.สธ. ในเรื่องนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
เมื่อถามว่า คิดว่าจะทำให้สถานการณ์การแก้ปัญหายาเสพติดดีขึ้นหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน สถานการณ์แก้ปัญหายาเสพติดจะต้องเป็นเรื่องยึดทรัพย์ แต่สถานการณ์ของคนติดยาต้องได้รับการบำบัดฟื้นฟู
เมื่อถามว่า แล้วขณะนี้ห้องขังมีเพียงพอหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตำรวจก็มีห้องขังได้อยู่แล้ว ส่วนเรือนจำเป็นเรื่องของขั้นตอนในระยะต่อไป ตนคิดว่าคนที่มียาบ้าเกิน 1 เม็ดแล้วถูกจับ ก็ควรถูกส่งเข้าห้องขัง ให้ถูกควบคุมตัว 48 ชั่วโมง เป็นเรื่องที่ดี
แสดงความเห็น
