“วิษณุ” จ่อนำประกาศกกต.ลงราชกิจจาฯ เตือนรมต.สวมหมวกสองใบ ลงพื้นที่ต้องระวัง  

ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศไทม์ไลน์การเลือกตั้ง ว่า การประกาศของกกต.ดังกล่าวถือว่าไม่เร็ว เพราะกฎหมายกำหนดให้ต้องประกาศ 180 วัน ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะสิ้นสุดลง ดังนั้นวันนี้ทางกกต.ได้มีฉากทัศนสองแบบ แบบที่หนึ่งถ้ารัฐบาลอยู่ไปจนถึงวันที่ 23 มีนาคม 2566  เขาจะต้องเตรียมการว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร ถือเป็นการส่งสัญญาณให้รัฐบาลรู้ บางอย่างรัฐบาลทำ บางอย่างกกต.ทำ แต่หากมีการยุบสภาก่อน การจะยุบเมื่อไหร่กกต.ไม่เกี่ยวเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ถ้ารัฐบาตัดสินใจยุบสภาเมื่อไหร่ก็ตาม รัฐบาลต้องรู้ว่าจะต้องทำอะไร และกกต.จะได้รับลูกไปทำอะไรต่อ หากยุบสภาจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน ไม่เกิน 60 วัน แต่ถ้าสภาอยู่จนครบวาระ ก็ให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน จึงได้มีการกำหนดถ้าอยู่จนครบเทอมในวันที่ 23  มีนาคม 2566 จะเลือกตั้งได้ในประมาณวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นการกำหนดมาทุกรูปแบบ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ในอดีตทุกครั้งที่ผ่านมาเขาก็ทำอย่างนี้ 

ส่วนเรื่องที่มีการออกข่าวเตือนว่าเหลืออีก 180 วัน ที่จะถึงวันที่ 23 มีนาคม 2566  แต่ละพรรคจะต้องเตรียมอะไร อย่างไร เป็นความรอบคอบที่เขาจะต้องเตือน ที่แล้วมาไม่จำเป็นต้องเตือน เพราะมีกฎหมายเลือกตั้งอยู่ ทุกคนต้องว่าไปตามกฎหมายเลือกตั้ง แต่เนื่องจากขณะนี้กฎหมายเลือกตั้งอยู่ระหว่างแก้ไข แต่ยังต้องใช้กฎหมายฉบับเดิม ซึ่งเมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้ว ก็ต้องใช้กฎหมายเลือกตั้งฉบับใหม่ จึงอยู่ระหว่างเก่ากับใหม่ กกต.จึงต้องออกคู่มือเตรียมเตือนไว้ก่อน ทั้งเรื่องการแจกเงิน การหาเสียง ตนได้ประสานกกต.ให้ส่งประกาศดังกล่าวมาเพื่อรัฐบาลจะลงในราชกิจจานุเบกษาให้ โดยเขาขอเพิ่มเติมอะไรนิดนึง ตอนนี้เป็นการเตือน แต่ประกาศยังไม่ออก ตนเข้าใจว่าวันนี้(22ก.ย.) ทางกกต.จะส่งมาได้ เพราะต้องมีผลก่อนวันที่ 24 กันยายน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังประกาศกกต.ลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว รัฐมนตรีต้องปฏิบัติตัวอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องเตรียมการถ้าจะไปทำอะไรในฐานะพรรคการเมือง แต่ถ้าในฐานะคณะรัฐมนตรีถือเป็นหน้าที่จะต้องทำ แต่ถ้าคนเดียวสวมหมวกสองใบซ้อนกันก็ต้องระมัดระวังหน่อยก็แล้วกัน ให้คนดู ให้ชาวบ้าน ให้กกต.แยกออก ทั้งนี้ตนได้เห็นร่างประกาศคร่าวๆแล้วว่าแจกเงินอะไรต่ออะไรไม่ได้ แต่เป็นการห้ามผู้สมัครและพรรคการเมือง ถ้าเป็นรัฐมนตรีไม่เป็นไร แต่ถ้ารัฐมนตรีที่จะไปเป็นผู้สมัครต้องระวัง เพราะเดี๋ยวแยกไม่ออกจะมีการฟ้องร้องกัน หากกกต.ส่งประกาศมาวันนี้ ก็จะนำแจ้งครม.ในการประชุมครม.วันอังคารที่ 27 กันยายนนี้ 

เมื่อถามว่า เมื่อกกต.ประกาศไทม์ไลน์ดังกล่าว ในซีกของรัฐบาลจะต้องดำเนินการอะไรบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า เกือบจะไม่ค่อยมี ถ้าหากอยู่จนครบเทอม รัฐบาลเกือบจะไม่ทำอะไร กกต.จะเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้ง ไม่ใช่รัฐบาล และกำหนดวันรับสมัคร วันร้องคัดค้าน แต่ถ้าเป็นการยุบสภา รัฐบาลทำอย่างเดียวคือการออกพระราชกฤษฎีกายุบสภา ซึ่งในนั้นจะไม่บอกวันเลือกตั้ง บอกแต่ให้ยุบ สมัยก่อนตอนที่ไม่มีกกต.ในร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภา มาตรา1 พระราชกฤษฎีกานี้ หนึ่งชื่ออะไร สองใช้บังคับเมื่อไหร่ สามยุบสภา สี่ให้เลือกตั้งเมื่อไหร่ แต่คราวนี้ไม่ได้แล้ว เพราะการเลือกตั้งเมื่อไหร่เป็นเรื่องของกกต.ทั้งนี้ ถ้ารัฐบาลประกาศยุบสภา กกต.จะไปกำหนดประกาศวันเลือกตั้งภายใน 5  วัน เพื่อให้รู้ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ 

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีหากพูดว่าอาจจะยุบสภาเมื่อนั้น เมื่อนี้ จะพูดได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สื่อถามกันมากๆท่านก็พูดไปว่าเอาไว้หลังการประชุมเอเปค มันคืออย่างนั้น แต่ไม่ใช่ว่าจะยุบหลังประชุมเอเปค ซึ่งสามารถพูดได้ เพราะมีอำนาจที่จะยุบ แต่ไม่ได้เป็นเรื่องจับให้มั่นคั้นให้ตาย เมื่อถามกันมากๆก็บอกให้ไปว่ากันหลังเอเปค ตอนนี้ไม่มีอะไร ความหมายมันคืออย่างนั้น 

เมื่อถามว่า กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยวาระ 8 ปี การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ หากไปต่อไม่ได้ ยืนยันว่ายังสามารถรักษาการ และยุบสภาได้ใช้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในทางทฤษฎีได้ แต่ในทางปฏิบัติไม่ควร สาเหตุที่ใช้คำว่าทฤษฎีก็ต้องไปเปิดดูรัฐธรรมนูญ มาตรา 169  เขียนไว้ว่าในกรณีที่นายกรัฐมนตรีพ้นไปจะรักษาการไม่ได้ ถ้า 1-2-3-4 แต่เรื่อง 8 ปี ไม่ได้อยู่ในข้อที่ 4 ก็หมายความว่ารักษาการได้ ซึ่งเป็นเรื่องทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติไม่สมควร

“ผมเชื่อว่าความควร ไม่ควร ทุกคนก็รู้อยู่” นายวิษณุ กล่าว เมื่อถามย้ำว่า หมายความว่านายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ใช่”          

เมื่อถามว่า มีกระแสว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจจะชี้เฉพาะคำร้องที่ฝ่ายค้านถามมาเท่านั้นคือครบหรือไม่ครบ 8 ปีเท่านั้น ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ จะไปเดาได้อย่างไร โดยตามหลักเขาต้องตอบตามที่ฝ่ายค้านถาม หลักมีอยู่แล้วท่านไม่ตัดสินเกินคำร้อง หรือเกินคำขอ 

เมื่อถามว่า อนาคตถ้ามีปัญหาค่อยร้องเพิ่มเติมใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แม้แต่ตามคำขอเขาก็อาจจะบอกอะไรมาได้มากพอสมควรแล้ว 

ถามว่า ในฐานะที่อยู่การเมืองมานาน ร่วมคณะรัฐมนตรีมาหลายสมัย มองบรรยากาศการเมืองช่วงนี้เป็นอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอะไรแตกต่าง บ้านเมืองเปียกฝนตกน้ำท่วม รถติด แต่จากประสบการณ์เห็นว่าไม่มีอะไรแตกต่าง 

เมื่อถามว่า ได้กลิ่นการเมืองอย่างไรบ้าง นายวิษณุกล่าวว่า “ไม่ได้กลิ่น เพราะตนใส่หน้ากากอยู่ แต่ก็ไม่ได้กลิ่นอะไรทางการเมือง ไม่มีหรอก”                                                                                        

เมื่อถามว่า ถ้านายกฯตัดสินใจยุบสภา จะต้องแจ้งล่วงหน้าหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า การคิดไว้ก่อนอาจต้องคิด และคิดไว้ทุกรูปแบบ แต่การบอกล่วงหน้าตนคิดว่าไม่มี ซึ่งในอดีตมีสองแบบ ทั้งนายกฯยุบสภาโดยไม่บอกใครเลย บอกคนเดียวคือเลขาธิการครม.แต่บางครั้งก็มีการหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเป็นการภายใน ไม่ใช่ประชุมครม.แล้วพูดกัน ตอนนี้อย่าไปคาดการณ์อะไรเลย เหลือสัปดาห์เดียวก็รู้เรื่องแล้ว 

แสดงความเห็น