“สมชัย” เตรียมยื่นเอาผิด 1 กกต. หลบประชุมลงมติใบส้ม “สุรพล เกียรติไชยากร”

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการยื่นหนังสือถึงกกต.เพื่อขอให้ชี้แจง 2 เรื่อง คือ กรณีที่กกต.ให้ใบส้ม นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย จากคำพิพากษาของศาล กกต.มีมติเอกฉันท์ 6 ต่อ 0 แต่กกต.มีทั้งหมด 7 คน แสดงว่ามี 1 คนที่ไม่ร่วมประชุมครั้งนั้น โดยในรายงานการประชุม พบว่า การประชุมในวันที่ 27 เมษายน 2562 มีกกต.เข้าประชุมครบทุกคน แต่เมื่อถึงวาระที่ 5.1 เป็นต้นไป จนถึงวาระที่ 5.4 เป็นการพิจารณาให้ใบส้ม มี กกต.1 คน ได้เดินออกจากที่ประชุม โดยให้เหตุผลว่า ติดภารกิจ ซึ่งกรณีนี้ ถือว่าสำคัญมาก เพราะ กกต.เมื่อจะต้องตัดสินคดีที่สำคัญ จำเป็นต้องมี กกต.อยู่ในที่ประชุม และถ้าหากไม่อยู่ในที่ประชุมโดยไม่มีเหตุผลสมควร ก็ถือว่าเป็นความผิดทางมาตรฐานจริยธรรม

ดังนั้น จึงอยากให้ถามกับรอยืนยันว่าในวันนั้นมีกกต.เดินออกจากห้องประชุมหรือไม่และเป็นใคร และเหตุผลในการเดินออกจากห้องประชุมคืออะไรกกต.ได้มีการพิจารณาแล้วหรือไม่ว่าสมควร ซึ่งคำตอบนี้จะเป็นเหตุผลในการที่จะยื่นต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ด้วยหรือไม่ และในความผิดมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ ถ้าคำตอบมาเห็นสมควรเรื่องนี้ก็จบไป  แต่ถ้าคำตอบไม่สมควรก็จะยื่นป.ป.ช.ต่อไป

นายสมชัย ยังกล่าวถึง การยื่นกกต. เพื่อให้ตรวจสอบคลิปเสียงของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กับนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ ว่า เนื่องจากเนื้อหาช่วงต้นคลิป เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งปี 62 มีการยืมเงิน 15 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งไปถึง 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการพูดในเชิงสนับสนุนร่วมกับนางจุรีพรว่าใช่ เพราะเดินหาเสียงด้วยกัน

ดังนั้น จึงอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสอบสวนและไต่สวนประเด็นดังกล่าว เพื่อเรียกบุคคล ที่เกี่ยวข้อง ทำการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งคำพูดในคลิปมีการเข้าข่ายความผิด 3 กรณี ซึ่งกกต.จะต้องตรวจสอบ คือ 1.ใช้จ่ายเงินเกินกรอบที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้จ่ายเงินได้ไม่เกิน1.5 ล้านบาทเท่านั้น 2.เรื่องการรายงานค่าใช้จ่ายเป็นเท็จหรือไม่ เพราะมีการรายงานค่าใช้จ่ายมาเพียง 800,000 กว่าบาทเท่านั้น 3.แนวโน้มในการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อซื้อเสียงหรือไม่ เพราะถ้าหากใช้เงิน 100 ล้านจริง คงไม่ใช้เพื่อหาเสียง แต่จ้างวานประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งออกเสียงให้ตนเอง

แสดงความเห็น