รมว.ยธ. ลุยเหนือครั้งแรก จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ ยันเดินหน้าปลดภาระช่วยประชาชนต่อ

รมว.ยธ. ลุยเหนือครั้งแรก จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ พร้อมแจกเงินเยียวยา 1 ล้านบาท ลูกหนี้ได้รับโปรโมชั่นลดดอกเบี้ย-ค่าปรับเพียบ ยันเดินหน้าปลดภาระช่วยประชาชนต่อ

ที่ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ มีการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 5 จ.เชียงใหม่ และยุติธรรมพบประชาชน โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย  ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวนันทรัศมิ์ เทพดลไชย  ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ที่ปรึกษาเฉพาะด้านนโยบายและการบริหารงานยุติธรรม  นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม  นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.  ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงาน

นายวรญาณ กล่าวต้อนรับว่า เรายินดีที่ได้รับเกียรติจัดงานเป็นจังหวัดแรกของภาคเหนือ เชียงใหม่นอกจากเป็นจังหวัดท่องเที่ยวลำดับต้นๆของประเทศแล้ว ยังเป็นนครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง ทั้งด้านการศึกษา อุตสาหกรรมและการขนส่ง หวังว่าการจัดงานครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ที่จ.เชียงใหม่ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของ ภาคเหนือ มีพี่น้องจาก จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ตาก และแม่ฮ่องสอน เป็นกลุ่มเป้าหมาย 10,781 ราย แบ่งเป็นผู้เป็นหนี้ก่อนฟ้อง 6,861 ราย หลังศาลมีคำพิพากษา 3,920 ราย มูลค่าหนี้ 960 ล้านบาท ตนในฐานะตัวแทนของรัฐบาลที่เดินทางมา ขอยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วง และไม่เคยคิดทอดทิ้งประชาชน จึงให้จัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สิน โดยมีกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รับผิดชอบ เรารู้รับทราบปัญหา ทั้งเรื่องภาคการเกษตรที่มีปัญหาด้านการส่งออกและราคาตกต่ำ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น จากสถานการณ์ตลาดโลกและสงครามความขัดแย้ง รวมถึงภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้คนตกงาน ขาดรายได้เป็นหนี้สิน ไม่สามารถหาเงินมาผ่อนจ่ายได้ตามกำหนด จนทำให้บางครอบครัวนั้นนอนไม่หลับ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ต้องขอขอบคุณสถาบันการเงินที่เข้าร่วม คือ1. กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 2.บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเช็ส จำกัด (มหาชน) 3.บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด  4.บริษัท เคบีเจ แคปปิตอล จำกัด 5. บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด(มหาชน) 6.ธนาคารออมสิน 7. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) 8.ธนาคารอาคารสงเคราะห์  9.ธนาคารอิสลาม. 10.ธนาคารกรุงเทพ 11.บริษัท โตโยต้า ลิสซิ่ง และ12.บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท โดยการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สิน จัดไปแล้ว 4 ครั้ง คือ 1.กทม.และปริมณฑล 2. นครราชสีมา 3.สงขลา และ 4.นครศรีธรรมราช  มีผู้เข้าร่วมงาน 7,800 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 5,697 ราย มูลค่าทุนทรัพย์ 1,477 ล้านบาท

“นอกจากนี้กระทรวงยุติธรรม ยังนำทุกหน่วยงานในสังกัด ลงมาจัดกิจกรรมให้ความรู้และช่วยเหลือประชาชน ทั้งการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา การช่วยเหลือด้านกฎหมายจากกองทุนยุติธรรม การรับเรื่องราวร้องเรียน การให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด การมอบบัตรประชาชนและการพิสูจน์สัญชาติจากดีเอ็นเอให้กับบุคคลที่ไม่มีสัญชาติ การสร้างงานสร้างอาชีพให้โอกาสกับผู้ต้องขังที่พ้นโทษ ท้ายที่สุดนี้ ผมหวังให้งานดังกล่าวนี้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดภาวะความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานได้  และขอยืนยันตรงนี้กระทรวงยุติธรรมจะเดินหน้าสร้างงานสร้างอาชีพและปลดหนี้ให้กับประชาชนต่อไป” นายสมศักดิ์ กล่าว

จากนั้นเป็นพิธี มอบเงินเยียวยา ให้กับผู้เสียหายจากคดีอาญาจำนวน 16 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 1,004,041 บาท มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ย จำนวน 35 ศูนย์ และพิธีมอบบัตรประจำตัวประชาชน ตามนโยบายยุติธรรมสร้างสุข ช่วยเหลือคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ต่อมานายสมศักดิ์ และคณะได้ร่วมการไกล่เกลี่ย รายแรกเป็นผู้ถูกศาลพิพากษาบังคับคดี เป็นหนี้ ธนาคารออมสินทั้งต้นและดอกเบี้ยรวม 157,467 บาท ได้ส่วนลดเหลือ 99,400 บาท และระงับการขายทอดตลาดโดยได้ขอปิดบัญชีหลังจากนี้อีก 3 เดือน อีกรายเป็นหนี้ก่อนฟ้องของ กยศ.ทั้งต้นและดอกเบี้ย 139,968 บาท ลดเบี้ยปรับหักเงินที่ชำระแล้วเหลือ 49,097 บาท ผลการไกล่เกลี่ยลดให้เหลือ 9,097 บาทหากปิดหนี้เลย จากนั้นเป็นกรณีผู้เป็นหนี้ของโตโยต้า ลิสซิ่ง จากการกู้ซื้อรถยนต์ 90,000 บาท ผลการไกล่เกลี่ยได้รับส่วนลดเหลือชำระ 20,000 บาท และได้เดินชมบูธต่างๆของหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมและสถาบันการเงิน โดยมีบริษัท ไม้หอม ที่มีลูกจ้าง 1,200 คน ได้รับผลกระทบการจากโควิด-19 ได้ยื่นหนังสือขอให้ธนาคารออมสินช่วยลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อรักษาการจ้างงานช่วยเหลือลูกจ้างด้วย โดยธนาคารออมสินยินดีที่จะช่วยพิจารณาให้

แสดงความเห็น