มาตามนัด “ส.ส.เต้” ยื่นหนังสือสถานทูตยูเครน ขอเป็นตัวกลาง ส่งทหารอาสาร่วมรบรัสเซีย 

“ส.ส.เต้” ยื่นหนังสือสถานทูตยูเครน ขอเป็นตัวกลาง ส่งทหารอาสาร่วมทัพช่วยรบรัสเซีย ลั่นหากไทยมีสงคราม พร้อมจับปืนยืนแนวหน้าแน่นอน  มอง “นายกฯ” ตัดสินใจช้าทำประเทศเสียดุลอำนาจ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงสถานทูตยูเครน เพื่อขอใบสมัครทหารอาสานานาชาติ สถานทูตยูเครนประจำประเทศไทยเผยแพร่ประกาศผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Embassy of Ukraine in the Kingdom of Thailand ประกาศรับสมัครชาวต่างชาติเพื่อไปร่วมรบกับกองทัพรัสเซียที่ประเทศยูเครน 

โดยนายมงคลกิตต์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนยื่นหนังสือถึงประธานาธิบดีของประเทศยูเครน รวมถึงให้กำลังใจประธานาธิบดีและประชาชนชาวยูเครนในฐานะพรรคการเมือง และอยากให้แก้ปัญหาด้วยสันติวิธีโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในภาพรวม เพราะขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม เพราะประเทศไทยก็ได้มีมติร่วมกับ UN แล้วว่าอยากให้แก้ปัญหาด้วยการเจรจาแบบสันติวิธีและอยากให้สงครามนี้ยุติโดยเร็ว ซึ่งตนในฐานะพรรคการเมือง รวมทั้งในฐานะกรรมาธิการทหารและพรรคฝ่ายค้านจึงมายื่นหนังสือในวันนี้

นอกจากนี้ ยังเห็นว่าทางสถานทูตเปิดรับสมัครทหารอาสา ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยสมัครใจ จึงอยากเป็นตัวกลางให้ประชาชน ทั้งสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ และ FC ที่เป็นทหารนอกราชการเคยเป็นทหารพราน หรือเคยเรียนนักศึกษาวิชาทหาร หรือคนมีรายได้น้อย ตกงานจากสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่  ที่สนใจสมัครแต่ไม่รู้จะดำเนินการอย่างไร ขอให้ประสานงานผ่านพรรคไทยศรีวิไลย์ โดยมีรองหัวหน้าพรรคที่ชำนาญการด้านการต่างประเทศอยู่เป็นผู้ประสานงานให้ ซึ่งหากเป็นรัฐบาลคงไม่สามารถจะดำเนินการได้มากนักเนื่องจากเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย จึงต้องวางตัวให้เป็นกลางเป็นไปตามมติของ UN

นายมงคลกิตติ์ ย้ำว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการดำเนินการโดยมนุษยธรรม ซึ่งขณะนี้มีคนแจ้งความประสงค์มาที่พรรคแล้วกว่า 10 คนแล้ว แต่ต้องการทราบว่าใครเป็นผู้จ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน  การจัดหาที่พัก รวมถึงการจ่ายเงินเดือน เนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการล่าช้า ไม่สามารถที่จะเป็นตัวประสานงานในการส่งผู้ต้องการไปเหมือนกับการส่งแรงงานไปซาอุดิอาระเบียได้ และอาจรวมถึงการกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงแต่ต้องการให้เกิดความสงบโดยเร็วไม่อยากให้เเกิดสงครามเนื่องจากนำมาซึ่งความสูญเสีย 

ส่วนเสียดายหรือไม่ ที่ตัวเองไม่ได้สมัครไปเอง เนื่องจากเป็น ส.ส. นายมงคลกิตต์ ระบุว่าสมมติตกงานและเคยเป็นทหารพรานมาห้าปีก็คิดว่าการไปก็รายได้ดี รวมถึงหากไม่มีงานทำหรือตกงานถ้าไม่ได้มีงานทำก็คงไปเป็นทหารอาสาที่ยูเครนแน่นอน ซึ่งตอนนี้ขอทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานก่อน แต่หากประเทศไทยมีศึกสงครามเหมือนที่ยูเครนรับรองว่า ส.ส.มงคลกิตต์จับปืนแน่นอน

ส่วนด้านการรับมือของรัฐบาลของประเทศไทย มองว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจช้า  เพราะอาจกังวลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่หากออกแอคชั่นเร็วขึ้นสหรัฐอเมริกาอาจจะซื้อข้าวไทยมากขึ้น ไทยมีสิทธิประโยชน์มากขึ้น แต่การที่ช้า ทำให้เสียดุลอำนาจทางการเมืองระหว่างประเทศ

แสดงความเห็น