“วิษณุ” ชี้ สภาฯเรียกเงินคืนจาก “สิระ” ได้ เหตุโดนศาลชี้ขาดคุณสมบัติตั้งแต่วันลงสมัคร ส.ส.

“วิษณุ” ระบุ สภาฯเรียกเงินคืนจาก “สิระ” ได้ เหตุโดนศาลชี้ขาดคุณสมบัติตั้งแต่วันลงสมัคร ส.ส. ส่วนจะยื่นร้องเอาผิด “กกต.-พปชร.” ได้หรือไม่ ยังไม่มั่นใจ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยว่า นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดสมาชิกภาพส.ส. เนื่องจากขาดคุณสมบัติการสมัครส.ส. ซึ่งทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐในตอนนั้นจะต้องถูกดำเนินการด้วย ว่า คดีของนายสิระถือเป็นผู้เคยต้องพิพากษาถึงที่สุดในคดีฉ้อโกง ส่วนผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐจะต้องรับผิดชอบหรือไม่นั้นตนตอบไม่ถูก อีกสักพักหนึ่งก็คงเข้าใจชัดเจน แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ถูกว่าในตอนนั้นผู้บริหารของพรรรคประชารัฐทราบเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับนายสิระมากน้อยแค่ไหน 

ผู้สื่อข่าวถามว่าบางฝ่ายมองว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยเนื่องจากเป็นผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องรอดูความชัดเจน ในช่วงการรับสมัครและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส.ได้มีการตรวจสอบประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ เมื่อถามว่าหากจะมีผู้ไปยื่นร้องเอาผิดกับกกต.และผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐในขณะนั้นจะสามารถทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน เท่าที่ได้ยินเบื้องต้นมีคนบอกว่าทำได้ แต่ตนไม่แน่ใจ 

เมื่อถามว่ามีข้อกฎหมายใดที่มีส่วนปกป้องกกต.ในเรื่องนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า กกต.มีหน้าที่ต้องตรวจสอบผู้สมัคร แต่บางครั้งก็อาจจะตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร 

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวที่สภาผู้แทนราษฎรจะเรียกเงินเดือนและรายได้ทั้งหมดคืนจากนายสิระจากกรณีดังกล่าว นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะนายสิระขาดคุณสมบัติ ตั้งแต่วันที่มาสมัครเลือกตั้ง ไม่ใช่มาขาดคุณสมบัติหลังจากเป็นส.ส.แล้ว เมื่อถามว่าบรรดาการกระทำต่างๆของนายสิระในฐานะประธานกรรมาธิการในสภาฯ จะถือเป็นโมฆะหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีผล สิ่งที่นายสิระเคยทำไว้ในฐานกมธ.ก็ยังคงอยู่

แสดงความเห็น