นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ. ได้ติดตามเพื่อตรวจสอบกรณีที่กระทรวงมหาดไทยออกหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้จัดทำคำขอเพื่อทำโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนบนพื้นฐานของโอกาสและศัยภาพของท้องถิ่น ระดับพื้นที่ วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท หรือแต่ละจังหวัดจะได้รับงบประมาณมากถึง 400- 500 ล้านบาท ทั้งนี้ทราบว่าผู้ว่าราชการจังหวัด นัดประชุมเพื่อหารือในวันนี้ (19 เมษายน) ซึ่งต้องจับตาการจัดโครงการและรูปแบบที่จะเร่งรัดให้กับพื้นที่ของนักการเมืองฝั่งของรัฐบาล เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง
นายไชยา กล่าวตอบคำถามถึงการติดตามร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท โดยยอมรับว่ากมธ. ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควรต่อการตรวจสอบงบประมาณที่เสนอขอโดยหน่วยงานต่างๆ เพราะไม่ได้รับเอกสารตามที่ร้องขอไปยังหน่วยงานสำนักงบประมาณ ดังนั้นการติดตามขณะนี้ทำได้เพียงบางหน่วยงานที่มีข้อมูล เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ที่เป็นกระทรวงอันดับ3 ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุด รองจากกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา หรือกรมอาชีวศึกษา ที่ กมธ.ได้ประเด็นมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในจำนวนงบประมาณ 60 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบโทรทัศน์ทางไกลเพื่อใช้สอนออนไลน์ ทั้งนี้เป็นที่น่าสงสัยและไม่ได้รับคำตอบ เพราะเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา เลี่ยงการชี้แจง ถึง 3 ครั้ง และส่งรองเลขาธิการฯ เจ้าหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการติดตามและตรวจสอบงบประมาณ พบกรณีของบประมาณที่เกินกว่าโครงการที่เสนอขอหรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็น ทั้งนี้ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าการจัดทำงบประมาณ ปี 2565 จะมีลักษณะเตรียมทำงบประมาณ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการเลือกตั้งในจังหวัดของส.ส.ซีกรัฐบาล ภายหลังจากที่งบประมาณรายจ่ายปี 2565 ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา แล้ว รัฐบาลจะชิงความได้เปรียบยุบสภา เพื่อเลือกตั้ง ทั้งนี้รัฐบาลจะมีความได้เปรียบทั้งงบประมาณ และกติกา คือ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
“การทำงานของกมธ. ยืนยันว่าต้องการให้งบประมาณขับเคลื่อนสู่พื้นที่เพื่อช่วยเศรษฐกิจ ให้เงินหมุนเวียน แต่การใช้งบประมาณต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ทุจริต” นายไชยา กล่าว