“นรุตม์ชัย” ขอทุกพรรค คว่ำ พ.ร.ก.เลื่อนใช้กม.ป้องกันทรมาน-อุ้มหาย ชี้ มาตราที่เลื่อน คือหัวใจสำคัญ 

“นรุตม์ชัย” ขอทุกพรรค คว่ำ พ.ร.ก.เลื่อนใช้กฎหมายป้องกันทรมาน-อุ้มหาย ชี้ มาตราที่ขอเลื่อน คือหัวใจสำคัญ เจ้าหน้าที่ต้องบันทึกภาพ-เสียงทั้งหมด ป้องกันซ้อมทรมาน แนะ ใช้มือถือถ่ายคลิปแทนก่อนได้ หลังตร.อ้างอุปกรณ์ไม่พร้อม

นายนรุตม์ชัย บุนนาค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตยานนาวา บางคอแหลม กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีการออก พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายว่า กฎหมายป้องกันการทรมานและอุ้มหาย ได้มีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า เป็นการปฎิรูปกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง เพราะได้มีการกำหนดให้เจ้าหน้าที่ ต้องบันทึกภาพและเสียงทั้งหมด เพื่อป้องกันการซ้อมทรมาน หรือ อุ้มหาย แต่รัฐบาล ก็ได้ออก พ.ร.ก.เพื่อเลื่อนบังคับใช้กฎหมายนี้ จำนวน 4 มาตรา คือ มาตรา 22-25 ออกไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 โดยเป็นมาตราที่เกี่ยวกับการบันทึกภาพและเสียง ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของกฎหมายฉบับนี้ 

นายนรุตม์ชัย กล่าวอีกว่า การที่สภาฯเห็นชอบกฎหมายฉบับนี้ จนประกาศเป็นกฎหมายแล้ว แต่หน่วยงานต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม อย่าง ตำรวจ กลับอ้างว่า ไม่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์บันทึกภาพ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ทุกคน ก็มีโทรศัพท์มือถือ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากถ้าจะปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนั้น ตนจึงอยากเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎร ช่วยกันผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ทั้งฉบับ ด้วยการโหวตคว่ำ พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้กฎหมายอุ้มหาย เพื่อช่วยกันยกระดับกระบวนการยุติธรรม ไม่ต้องให้มีพี่น้องประชาชน ตกเป็นเหยื่อของการซ้อมทรมานหรืออุ้มหายอีกต่อไป 

“กฎหมายฉบับนี้ กว่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ได้ผ่านการพิจารณามาอย่างรอบด้าน แต่กฎหมายอุ้มหาย กลับมาถูกลักลั่นออก พ.ร.ก.เลื่อนใช้ ซึ่งผมจบกฎหมายมา ปกติจะไม่ทำกันลักษณะนี้ ถ้าไม่มีเหตุฉุกเฉิน ซึ่งกฎหมายอุ้มหาย ทุกคนเฝ้ารอมานานหลายปี เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่า ปัญหาถูกซ้อมทรมาน เพื่อให้รับสารภาพทั้งที่ไม่ได้กระทำผิด ยังคงมีอยู่ โดยแอมเนสตี้ ได้รายงานว่า ปี 2557-2558 มีผู้ถูกทรมาน และละเมิดสิทธิ ถึง 74 ราย ส่วนผู้ถูกบังคับสูญหาย ปี 2523-2562 มีอย่างน้อย 92 ราย ซึ่งสะท้อนว่า ปัญหาเหล่านี้ เกิดขึ้นจริง ดังนั้น ผมขอเรียกร้องทุกพรรคการเมือง ให้ช่วยกันปิดสวิตช์ต้นตอของปัญหานี้ ด้วยการให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ทั้งฉบับ อย่าปล่อยให้ออกพ.ร.ก.เลื่อน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่มีความพร้อม เพราะพี่น้องประชาชน เริ่มสงสัยแล้วว่า แท้จริงแล้วมีปัญหาอะไรที่ซุกไว้ใต้พรหมหรือไม่” นายนรุตม์ชัย กล่าว

แสดงความเห็น