เสรี ให้ฉายา รธน.60 ถูกคนโกงปราบ เชื่อไม่ยุบสภาเร็วๆ นี้ เผยเสนอคำแปรญัตติแก้กม.ลูก เปิดทาง ปชช.รับเงินซื้อเสียงไม่ผิดกฎหมาย
นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนวุฒิสภา กล่าวในงานสัมมนาเครือข่ายประชาชนปฏิรูปการเมือง ปี 2564 ตอนหนึ่งว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ที่ตั้งใจทำให้เป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง แต่เมื่อใช้บังคับแล้วพบว่าเป็นฉบับที่ถูกคนโกงปราบ เนื่องจากเนื้อหาไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง อย่างไรก็ดีสถานการณ์การเมืองปัจจุบันที่พบว่ารัฐธรรมนูญถูกแก้ไขให้เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพราะการเลือกตั้งด้วยบัตรเลือกตั้งใบเดียวนักการเมืองไม่พอใจ เมื่อรัฐธรรมนูญถูกแก้ไข จึงต้องแก้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการของกรรมาธิการพิจารณา อย่างไรก็ดีตนเสนอคำแปรญัตติให้แก้ไขประเด็นการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ตามกฎหมายกำหนดว่าคนซื้อเสียงผิด และคนรับเงินผิดด้วย ซึ่งไม่สามารถแก้การซื้อเสียงได้ เพราะช่วยกันปกปิด ดังนั้นสิ่งที่ตนเสนอคำแปรญัตติคือ ให้ประชาชนไม่ผิด เพื่อให้ประชาชนรับเงินซื้อเสียงได้ และให้ประชาชนไปเป็นพยาน มีหลักฐานเป็นเงิน เพื่อให้คนให้เงินไม่กล้าให้
“ไม่รู้ว่านักการเมืองจะเอาด้วยหรือไม่ แต่ผมจะสงวนความเห็นพูดในรัฐสภาว่า ปัญหาห้ามซื้อเสียง ขายสิทธิ์ แต่การปิดกั้นการนำหลักฐานและพยานมาแสดง ทำให้ไม่ได้ผล ที่บอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ผมขอให้ยุบสภาบ่อยๆ ลงเลือกตั้งบ่อยๆ ชาวบ้านจะได้ได้เงิน หากยังกล้าซื้อเสียง กี่พรรคต่อกี่พรรค ให้ประชาชนรับเงินให้เจ๊งไปข้างหนึ่ง” นายเสรี กล่าว
นายเสรี กล่าวด้วยว่า ตนเสนอคำแปรญัตติ ให้เลิกห้ามการหาเสียงโดยใช้มหรสพ และห้ามจัดเลี้ยง เพราะมองว่าสร้างปัญหาให้กับคนที่ทำถูกกฎหมาย อย่างไรก็ดีตนมองว่าการจัดเลี้ยง หรือจัดแสดง ไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งส.ส.ของประชาชน อย่างไรก็ดีกติกาที่กำหนดไว้ ยังพบการซื้อเสียงจำนวนมาก และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จับไม่ได้ เนื่องจากไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ดังนั้นการสร้างการเมืองใหม่ ต้องยึดอยู่กับความจริงและโลกความเป็นจริง เพื่อให้ได้ส.ส.ที่ดีเข้าสภาฯ เพื่อให้นำพฤติกรรมที่อยู่ใต้ดิน ขึ้นมาบนดี ทั้งนี้การควบคุมต้องเข้มงวดในการจับกุม ดำเนินคดี ไม่ใช่เขียนกติกาเพื่อปิดกั้น แต่เปิดช่องให้มีการกลั่นแกล้งระหว่างผู้สมัคร ส.ส.
นายเสรี กล่าวด้วยว่าสำหรับการแก้ปัญหาการเมืองต้องสร้างเสถียรภาพของรัฐบาล ผ่านเสียงข้างมากในสภา ไม่ต้องใช้พรรคการเมืองหลายพรรค ที่พบว่าหากรัฐบาลหลายพรรคมักแบ่งผลประโยชน์ ทั้งนี้ในภาวะปัจจุบันเสถียรภาพของรัฐบาลเหลือน้อย ที่เรียกร้องให้ยุบสภา ตนมองว่าไม่อยาก เพราะนายกฯ ประกาศยุบสภาเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัตินั้นยาก เนื่องจากส.ส.ไม่ต้องการให้ยุบสภาจริง เพราะไม่มั่นใจว่าจะได้กลับมาเป็นส.ส.
“ผมเชื่อว่าจะอยู่ไปอีกระยะหนึ่ง จนพรรคการเมืองแสดงนโยบาย ความสำคัญให้พรรคได้คะแนนเสียง แต่ตอนนี้ไม่ยุบสภาฯ ในที่สุดไม่ต้องห่วงของพวกนี้ไม่จีรังยั่งยืนถึงเวลาไปต้องไป การอยู่ครบ 4 ปี ไม่เป็นไร เพราะเป็นไปตามกติกา” นายเสรี กล่าว