ดีเดย์ 1 พ.ย. กลุ่มภาคการขนส่ง หยุดเดินรถ 20% หลังรัฐบาลยังตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร ซึ่งไม่ตอบสนองข้อเรียกร้อง เตรียมนำรถบรรทุก และรถยนต์ส่วนบุคคล มากกว่า 1,000คัน ออกมาวิ่งบนถนนทั่วประเทศ ยืนยัน ไม่มีการเมืองเบื้องหลัง และขออย่าโยงกลุ่มการเมือง
ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย นำโดย นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย พร้อมกับสมาคมภาคการขนส่งต่างๆในเครือข่าย กว่า 10 เครือข่าย ได้ร่วมกันแถลงข่าว เพื่อแสดงพลังถึงความเดือดร้อนในการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล หลังจากได้ออกมารวมตัวกันแสดงพลังในการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ นำรถบรรทุกเคลื่อนขบวนเรียกร้องไปตามเส้นทางต่างๆ 7 เส้นทางเมื่อวันที่ 19 ต.ค.เพื่อให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 25 บาทต่อลิตร แต่ล่าสุดมติ กบง.ให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาท และให้ใช้น้ำมัน B7 B10 และ B20 ในภาคขนส่งนั้น ซึ่งถือว่า ไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของสมาพันธ์
โดยจะมีการจัดกิจกรรม ทรักพาวเวอร์ ซีซั่น 2 ที่จะเป็นการรวมตัวของภาคประชาชน และมีรถบรรทุกมากกว่า 1000 คัน รวมถึงมีรถยนต์ส่วนบุคคล ออกมาเคลื่อนไหวพร้อมกันอีกครั้งในเส้นทางที่กำหนด ภายในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งครั้งนี้จะเชิญชวนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากราคาน้ำมันมาร่วมกิจกรรมด้วย และจะหยุดเดินรถในการให้บริการด้านการขนส่ง 20% ทั่วประเทศ ตามกรอบระยะเวลา 7-15 วัน หรือ 1 เดือน โดยจะมีหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานที่ใช้บริการโดยตรงทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงจะแจ้งไปยังผู้ใช้บริการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่ออธิบายถึงเหตุผลความจำเป็นของการออกมาทำกิจกรรม ซึ่งจะเป็นกิจกรรมที่เข้มข้นขึ้นที่จะสะท้อนความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจ แบบผสมกัน พร้อมทั้งจะทำหนังสือถึงกรรมาธิการ การพลังงานฯ ไปสภาผู้แทนราษฎร หลังมีการเปิดสมัยประชุมในวันที่ 1 พ.ย. เพื่อให้ทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชนและขอให้เป็นตัวแทนประชาชนไปหารือกับรัฐบาล ซึ่งหวังว่า สภาผู้แทนราษฎรจะมีการช่วยเหลือประชาชน และจะทำให้เห็นชัดเจนว่าพรรคใดที่จะช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤต และจะยื่นหนังสือร้องเรียน และข้อเสนอแนะ ต่อนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน กพช.เพื่อขอเข้าพบและขอหารือถึงผลกระทบกรณีราคาน้ำมันแพง
โดยนายอภิชาติ ระบุว่า การหยุดเดินรถ 20% จะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย.นี้ และเริ่มต้นก่อน 7 วัน โดยจะมีรถทุกประเภท ทั้งรถทัวร์ และรถที่ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งหากเฉพาะรถของของสหพันธ์ฯ จาก 4 แสนกว่าคัน ก็จะหยุดเดินรถไปประมาณ 7-8 หมื่นคัน หากคิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จะประมาณหลายพันล้านบาท ส่วนความเสียหายจากความเดือดร้อนขอให้รัฐบาลเป็นคนประเมิน
ส่วนการนำรถจำนวนมากเกือบทุกจังหวัดมาแสดงเชิงสัญลักษณ์ในการออกมาวิ่งบนถนนนั้น จะไม่ให้ขวางทางการจราจร พื้นที่ กทม.จะได้เห็นภาพว่า รถบรรทุกเดือดร้อนอย่างไร ซึ่งจะนำป้ายไวนิลมาติดข้างรถบรรทุกด้วย และจะเรียกร้องโดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ยืนยันว่า การออกมาเคลื่อนไหว ไม่มีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง และไม่มีใครมาสนับสนุน ทุกคนจากสมาคมต่างๆ นำรถออกมาและดูแลค่าใช้จ่ายกันเองทั้งหมด
ด้านนายสิริภพ พิชัยรัตนพงศ์ เลขาสหพันธ์การขนส่งแห่งประเทศไทย บอกด้วยว่า จากโครงสร้างราคาที่ไม่เป็นธรรมนั้น เชื่อว่ารัฐบาลสามารถทำให้ประชาชนมีราคาที่เป็นธรรมตามข้อเรียกร้องได้ ส่วนกิจกรรมทรักพาวเวอร์ ดำเนินการภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ไม่อิงกับกลุ่มการเมืองใดๆ และยืนยันว่า ไม่ขอเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้ยังฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีด้วยว่า ขอราคาน้ำมันดีเซล 25บาท เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน
ขณะที่ นายพีระพัชร์ จิระวัฒนเอก ที่ปรึกษาสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย บอกด้วยว่า อยากเรียกร้องให้รัฐบาล มองเศรษฐกิจ และความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก อย่าเอาการเมืองเข้ามายุ่ง ในการปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน เพราะเชื่อว่าสามารถทำได้
สำหรับข้อเรียกร้องของทางสมาพันธ์ฯ ยังเน้นย้ำข้อเรียกร้องเดิม คือ ตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 25 บาทต่อลิตร ลดภาษีสรรพสามิตลง 5 บาทต่อลิตร และยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนพลังงาน เป็นระยะเวลา 1 ปี ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันให้เป็นธรรม ไม่เอาเปรียบประชาชนและผู้บริโภค ราคาหน้าโรงกลั่นของไทยต้องเท่ากับประเทศสิงคโปร์ ที่ใช้เป็นฐานอ้างอิงน้ำมันสำเร็จรูป