“สุพัฒนพงษ์” แจงสภาฯ ไทย รั้งอันดับ 6 ใน 8 ประเทศอาเซียน ราคาพลังงานสูง

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ตอบกระทู้ถามสดในที่ประชุมสภาฯ ต่อประเด็นปัญหาราคาค่าน้ำมันแพง ตั้งถามโดยนายกิตติกร โลห์สุนทร ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย  โดยยอมรับว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและความขัดแย้งของประเทศมหาอำนาจมีความล่อแหลมและอาจนำไปสู่วิกฤตได้ อย่างไรก็ดีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลได้คำนึงถึงและตระหนักต่อการแก้ไขปัญหา ทั้งการใช้กองทุนน้ำมันเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซล โดยปัจจุบันใช้กกองทุนไปแล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท และยังเตรียมที่จะกู้เงินอีก 2-3 หมื่นล้านบาทเพื่อดำเนินการต่อ เบื้องต้นอยู่ในกระบวนการกู้เงิน และเชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหา

นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงด้วยว่าสำหรับข้อเสนอแนะต่อการลดส่วนผสมของน้ำมันชีวภาพนั้น ที่ผ่านมาได้ลดลงแต่ไม่สามารถทำได้พรวดพราด เพราะจะกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน  อย่างไรก็ดีรัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการใหม่ๆ เพื่อดูแลประชาชน

นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงด้วยว่า กรณีที่มีผู้ระบุว่าประเทศไทยมีราคาน้ำมันดีเซล มีราคาสูงถึงลิตรละ 30 บาท ถือว่าแพงที่สุด จากการค้นข้อมูลพบว่าหลายรัฐบาลมีราคาสูงเช่นเดียวกันและเมื่อเทียบกับ 8 ประเทศในกลุ่มอาเซียน ยกเว้นบูรไน และมาเลเซีย ที่มีแหล่งพลังงานของตนเองและสามารถส่งออกได้ไม่จำกัด พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 6-7 ส่วนประเทศที่แพงที่สุดคือสิงคโปร์

นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงด้วยยว่าสำหรับค่าไฟฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) สั่งการให้พิจารณาในระยะสั้นเพื่อลดการนำเข้าแอลเอ็นจี ที่มีราคาแพง โดยใช้วิธีผลิตอื่น  เช่น ขยายต่ออายุโรงไฟฟ้าถ่านหิน  1 ปี แม้กระทบสิ่งแวดล้อมแต่มีพื้่นที่ไม่มาก, รับซื้อไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มมากขึ้น โดยให้ร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน

แสดงความเห็น