นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า จากการติดตามสถานการณ์ทั่วประเทศพบว่ามีลักษณะคล้ายกัน คือ ต้องเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไป จะมีเพียงบางจังหวัดที่มีวัคซีนสามารถฉีดให้ประชาชนได้ตามที่ลงทะเบียนไว้ ดังนั้น ตนในฐานะ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการเสนอต่อที่ประชุมพรรคในครั้งต่อไป ให้พรรคประชาธิปัตย์ขอสลับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กับ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากปัจจุบันนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัคซีนและการเลื่อนฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้น
“พรรคประชาธิปัตย์ได้รับโควตามาในการบริหารงานกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่มาจากพรรคภูมิใจไทย พี่น้องประชาชนก็คาดหวังที่จะให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ดูแลพี่น้องประชาชนด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะปัจจุบันที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และปัญหาการกระจายวัคซีน แต่รัฐมนตรีของพรรคไม่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาการกระจายวัคซีน ผมในฐานะ ส.ส.ของพรรคไม่สามารถตอบคำถามพี่น้องประชาชนได้ว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาการกระจายวัคซีนในปัจจุบันนี้อย่างไรให้เกิดความเป็นธรรม” นายอัครเดช กล่าว
นายอัครเดช กล่าวต่อว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ดังนั้นหากไม่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาก็ไปอยู่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีรัฐมนตรีว่าการฯอยู่พรรคเดียวกัน เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งการที่ตนเสนอข้อเสนอดังกล่าวนี้ เพื่อต้องการให้ผู้ที่มีอำนาจในปัจจุบันทราบว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนบุคลากรและวิธีการทำงานใหม่ทั้งหมด เพื่อจะได้สร้างความชัดเจนในการกระจายวัคซีนให้กับประชาชน
นอกจากนี้ นายอัครเดช ยังเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ซึ่งเป็นแอปที่รัฐบาลสร้างขึ้นมาเอง และชี้แจงว่าประชาชนที่ถูกเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปโดยไม่มีกำหนดจะได้รับการฉีดเมื่อไหร่ ไม่เช่นนั้นประชาชนจะสับสน เพราะวันนี้คนที่จะได้รับการฉีดวัคซีนจะต้องเป็นคนที่มีเส้นสาย จนมีการตั้งคำถามว่าวันนี้ที่การกระจายวัคซีนไม่เป็นธรรม เพราะเกิดจากการเมืองนำการแพทย์ มีการแทรกแซงของการเมือง รวมถึงขอให้รัฐบาลเปิดเผยจำนวนการจัดสรรวัคซีนและจำนวนการฉีดของแต่ละจังหวัด รวมถึงเหตุผลประกอบว่าเหตุใดจังหวัดบางจังหวัดได้รับการจัดสรรมาก บางจังหวัดได้น้อย ซึ่งหากจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรมากเป็นเพราะมีการระบาดมากเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ แต่หากจังหวัดที่ได้รับวัคซีนมากเป็นจังหวัดที่ไม่ได้ระบาดมาก ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องชี้แจงว่าเพราะเหตุใด
แสดงความเห็น
