อธิบดีกรมพินิจฯ ลุยสานต่อภารกิจ สร้างชีวิต-มีงานทำ ให้ เด็กและเยาวชน ลดทำผิดซ้ำ

“อธิบดีกรมพินิจฯ” ลุยสานต่อภารกิจ สร้างชีวิต-มีงานทำ ให้ “เด็กและเยาวชน” 6 ศูนย์ฝึก ตั้งเป้าลดการทำผิดซ้ำ ย้ำโครงการพัฒนาอาชีพ เฟส 2.2 เน้นความพร้อมสู่ตลาดแรงงาน – สร้างทักษะชีวิตอยู่ร่วมในสังคมที่ท้าทาย

ที่ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) โครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเยาวชน ระยะที่ 2.2 ระหว่างกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กับ องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน  และ นายจอห์นแมค กาว์น ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมลงนาม

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์  อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม  เปิดเผยภายหลังการลงนามว่า  กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีพันธกิจที่สำคัญ คือ การพิทักษ์เยาวชน ยกระดับคุณภาพชีวิต รวมถึงสร้างโอกาสที่ช่วยเพิ่มศักยภาพของเด็กและเยาวชนที่ก้าวพลาด ให้เป็นบุคลากรที่สร้างประโยชน์กับสังคม โดยความสำคัญของเรื่องนี้คือ การลดการกระทำผิดซ้ำในเด็กและเยาวชน ที่ปัจจุบันมีตัวเลขอยู่ที่ร้อยละ 25 โดยความผิดที่กระทำซ้ำส่วนใหญ่คือความผิดด้านยาเสพติด และความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน ดังนั้นหากเด็กและเยาวชน ได้รับการพัฒนาให้เป็นผู้มีทักษะชีวิตและทักษะที่จำเป็นต้องการเข้าสู่ตลาดแรงงานจะช่วยลดปัญหาดังกล่าว

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวด้วยว่าสำหรับ ภารกิจที่กรมพินิจฯ ร่วมกับองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย  ร่วมดำเนินการ ภายใต้โครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเยาวชน ระยะที่ 2.2 มีเป้าหมายเข้าฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึกฯ  จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ฝึกและอบรมฯ บ้านอุเบกขา, ศูนย์ฝึกและอบรมฯบ้านปรานี, ศูนย์ฝึกและอบรมฯสิรินธร, ศูนย์ฝึกและอบรมฯเขต1, ศูนย์ฝึกและอบรมฯเขต2 และ ศูนย์ฝึกและอบรมฯเขต11  ทั้งนี้เพื่อให้เยาวชนมีความพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานและได้รับการจ้างงานที่เหมาะสม  ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นตัวช่วยสำคัญ​ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ไม่กระทำผิดซ้ำ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการยาเสพติด

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวด้วยว่าสำหรับโครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเยาวชน ได้ดำเนินโครงการแล้ว 2 ระยะ  คือ ระยะที่1 ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 ถึง เดือนมีนาคม 2560  โดยเข้าฝึกวิชาชีพให้เด็กและเยาวชนในสถานที่ควบคุม 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา, ศูนย์ฝึกฯ บ้านอุเบกขา, ศูนย์ฝึกฯ บ้านปรานี และ สถานพินิจฯ สมุทรปราการ โดยมีเด็กและเยาวชนร่วมโครงการรวม 637 คน , สำเร็จการศึกษาวิชาชีพ จำนวน  575 คน และได้รับการจ้างงานหรือเรียนต่อ รวม 156 คน และระยะที่ 2.1 ดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 ถึงเดือนพฤษภาคม 2563 เข้าฝึกอาชีพและเพิ่มทักษะชีวิต ในศูนย์ฝีกฯ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่  ศูนย์ฝึกฯ ชาย บ้านกรุณา จ.สมุทรปราการ, ศูนย์ฝึกฯ  บ้านอุเบกขา จ.นครปฐม, ศูนย์ฝึกฯ บ้านปรานี จ.นครปฐม, ศูนย์ฝึกฯ สิรินธร จ.นครปฐม มีเด็กและเยาวชนเข้ารับการอบรมทักษะอาชีพ จำนวน 314 คน และได้รับการจ้างงานหรือฝึกงาน รวม 78 คน ทั้งนี้ในโครงการระยะ 2.1 นั้นยังมีการอบรมเพิ่มทักษะด้านอื่นๆ อาทิ อบรมความเสมอภาคระหว่างเพศ, อบรมการเตรียมความพร้อมในการทำงาน เป็นต้น  ซึ่งผลงานที่ได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ

“ผลจากการฝึกและอบรมเยาวชนในศูนย์ฝึกต่างๆ นั้น ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเชื่อว่าการขยายโครงการไปยังศูนย์ฝึกฯ ต่างๆ โดยให้เด็กและเยาวชน เข้ารับการอบรม คือ การรับรองโอกาสของเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตเป็นผุ้ใหญ่ที่มีศักยภาพในสังคม และมีชีวิตที่ดี ดังนั้นในระยะที่ 2.2 ที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้ลงนามความร่วมมือ ผมเชื่อว่าจะสร้างพฤติกรรมเชิงบวกและเหมาะสมให้กับเยาวชน ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาความสามารถของเด็กและเยาวชน ที่มีต้องเจอกับความท้าทายต่างๆ ในชีวิตประจำวันและสามารถรับมือกับความท้าทายนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเพิ่มโอกาสที่จะได้รับอาชีพ มีงานทำอย่างมั่นคงหลังเสร็จสิ้นการอบรม ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการยกระดับและการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นบุลากรสำคัญของชาติต่อไป” พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าว

แสดงความเห็น