กมธ.ดีอีเอส ลงพื้นที่สระบุรี ติดตามจัดระเบียบสายสื่อสาร คืนความสวยงามให้พื้นที่

“กัลยา” ชี้ คืนความสวยงามให้พื้นที่ หวังวันหน้านำลงใต้ดิน พัฒนาสระบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักไม่ใช่แค่ทางผ่าน “สรอรรถ”แนะทุกภาคส่วนต้องร่วมมือวางมาตรการเพื่ออนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.สระบุรี คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นำโดย น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกมธ.ดีอีเอส พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย ในฐานะรองประธานกมธ.ดีอีเอส และนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษากมธ.ดีอีเอส ลงพื้นที่รับฟัง “แนวทางการปฏิบัติการจัดระเบียบสายสื่อสาร” โดยมี ปลัดจังหวัดสระบุรี ผอ.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสระบุรี ตัวแทนจาก กสทช.และบริษัทผู้ประกอบการและผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร ร่วมงาน

น.ส.กัลยา กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ กมธ.ดีอีเอส มาดูแนวทางและวิธีจัดระเบียบสายสื่อสาร เพื่อติดตามการจัดระเบียบ รวมถึงสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และต้องการให้ผู้ประกอบการคืนความสวยงามแก่พื้นที่ และเพื่อให้ได้คุณภาพสัญญาณของการสื่อสารที่ดีขึ้น โดยแผนการจัดระเบียบสายสื่อสาร มี 3 เส้นทาง คือ ถนนเทศบาล 4 ถนนพิชัยณรงค์สงคราม และถนนสุดบรรทัด ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญ ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาแก่จังหวัด ทั้งนี้นอกจากการจัดระเบียบแล้ว ในอนาคตกมธ.หวังว่าจะมีการนำสายสื่อสารลงใต้ดินได้ ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดย กมธ.ดีอีเอส ยินดีให้ความร่วมมือ และหวังว่าจะสามารถจัดระเบียบ สร้างความสวยงาม 

“ตนอยากให้สระบุรีเป็นเมืองหลักในการท่องเที่ยว มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่ใช่เป็นแค่เมืองที่คนผ่านเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ความต้องการประชาชนนั้น นอกจากต้องการให้จัดระเบียบสายสื่อสารแล้ว ยังหวังให้นำสายลงดิน เพราะที่ผ่านมาหลายแห่งมีสายที่รกรุงรัง บางแห่งก็เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่อยู่ในพื้นที่และผู้สัญจรไปมา แต่หากวันนี้เรายังไม่มีงบประมาณเพียงพอ การจัดระเบียบให้เรียบร้อยไปก่อนก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี หากวันหน้ามีงบประมาณนำสายลงดินได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก” น.ส.กัลยา กล่าว

นายสรอรรถ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการประชุมหารือร่วมกันของทุกภาคส่วน ตนอยากเห็นการทำงานร่วมกัน ไม่เช่นนั้นจะเป็นการโยนกันไปโยนกันมา ตนเข้าใจผู้ประกอบการ หากจะจัดระเบียบสายเองก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ตรงนี้ทุกอย่างต้องคุยกันให้จบ ไม่เช่นนั้นคนที่เดือดร้อนก็คือพี่น้องประชาชน และหากในอนาคตมีการนำลงดิน ค่าใช้จ่ายจะสูงมาก ซึ่งก็คงต้องมีการวางมาตรการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือในอนาคต

ต่อมา คณะกมธ.ดีอีเอส ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสระบุรี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจบุคคลากรโรงพยาบาลสระบุรี หลังจากที่ถูกแฮกเกอร์แฮกข้อมูลและเรียกค่าไถ่ข้อมูลของคนไข้ จากนั้น คณะกมธ.ได้เดินตรวจความเรียบร้อยของสายไฟบริเวณถนนเทศบาล 4 ตั้งแต่หน้าโรงพยาบาลสระบุรี ไปยัง ถนนพิชัยณรงค์สงคราม และถนนสุดบรรทัด โดยมีหน่วยงานต่างๆร่วมตรวจสอบด้วย 

แสดงความเห็น