“อนุทิน” ชี้ ประกาศโควิด-19 โรคประจำถิ่นต้องใช้เวลา รับกังวลเทศกาลตรุษจีน ขอป้องกันตัวเองให้ดี

“อนุทิน” ชี้การประกาศโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นต้องใช้เวลามีการวางแผนให้ปชช. ประกอบอาชีพ รับกังวลเทศกาลตรุษจีน ไม่ห้ามเดินทาง-รวมกลุ่ม แต่ขอป้องกันตัวเองให้ดี 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า  แม้ว่าในขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ลดลง แต่ต้องเน้นดูในเรื่องของจำนวนผู้ป่วยหนัก และผู้เสียชีวิต ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ ขณะที่การติดเชื้อในสหรัฐอเมริกา มียอดผู้เสียชีวิตสูงมาก แม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ที่อาการไม่รุนแรง นอกจากนี้ต้องดูในรายละเอียด ขออย่าเพิ่งด่วนสรุปข้อมูล เบื้องต้นในสหรัฐอเมริกา มีผู้ยังไม่ได้รับวัคซีนจำนวนมาก และวิธีการใช้ชีวิตไม่เหมือนกับเรา  ขณะที่ประเทศไทยให้ความร่วมมือมาก ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนยังเห็นประชาชนให้ความร่วมมือในการสวมใส่หน้ากากอนามัย ดังนั้นการติดเชื้อจึงอยู่ในระดับที่ไม่เพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อเกิดมาจากการรวมตัวกัน ปาร์ตี้ ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีอยู่ ทั้งนี้ ถ้าฉีดวัคซีนแล้วและระมัดระวังกันแล้ว ก็เหมือนจะเป็นการคัดกรองไปได้เยอะ เมื่อมีหลุดมาบ้างก็ยังให้การดูแลได้อยู่ 

ส่วนปัญหาการสอบ TCAS ได้มีการประสานมายังสธ. หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สธ.ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ต้องดูอะไรแล้ว เราให้มาตรการ D-M-H-T ถ้าคัดกรองเหล่านี้ได้ก็ถือว่าทำได้ นั่งห่างกัน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ATK วัดอุณหภูมิ ได้รับวัคซีนครบโดส ก็ปลอดภัยหมด ตอนนี้เรื่องวัคซีนไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือจะทำอย่างไรหลีกเลี่ยงการเฮฮา สังสรรค์ เพราะจากที่ได้รับการรายงานคลัสเตอร์หลักมาจากลุ่มนี้ 

ส่วนจะมีการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างไร จึงจะมีการประกาศเป็นโรคประจำถิ่น นายอนุทิน ระบุว่า ต้องดูในหลายปัจจัย ทั้งอัตราการป่วยหนัก เสียชีวิต ติดเชื้อ รวมถึงจำนวนการได้รับวัคซีน และความร่วมมือที่ได้รับ หากอยู่ในขั้นไม่ได้ก้าวกระโดด ยอมรับว่าการประกาศโรคประจำถิ่นต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าจะประกาศพรุ่งนี้ แต่ต้องมีเป้าหมายและแนวทาง เพื่อประชาชนจะได้วางแผนไปข้างหน้าในการจะประกอบอาชีพ หรือทำอะไรต่างๆ 

เมื่อถามถึงข้อกังวลการรวมกลุ่มในช่วงเทศกาลตรุษจีน นายอนุทิน กล่าวว่า หากหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มได้ก็ควรต้องทำ แต่การจะห้ามไม่ให้เดินทาง หรือไม่ให้เจอใครเลยพูดไปก็เท่านั้น แต่ต้องป้องกันตัวเองให้ได้มากที่สุด

แสดงความเห็น