‘บิ๊กตู่’ คนปิดสวิตซ์ ‘3ป.’

สุดท้ายกลายเป็นว่า คนปิดสวิตซ์ ‘3 ป.’ ไม่ใช่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร ที่เคยหล่นวาทกรรมนี้เอาไว้ 

และไม่ใช่ ‘ก้าวไกล’ ที่ประกาศไม่จับมือกับ 2 ลุง

แต่คนที่ปิดสวิตซ์ กลับเป็น ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตผู้นำอย่างเป็นทางการ

เรียกว่า ไม่ต้องให้ใครมาปิด แต่เลือก ‘ปิดตัวเอง’ แบบหล่อๆ

ที่ว่าปิดสวิตซ์ตัวเอง คือ เป็นคนไฟเขียวให้ 152 สว. ยกมือ ‘เห็นชอบ’ ให้ ‘เสี่ยนิด’ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศ ด้วยคะแนน 482 เสียง 

ถ้าไม่ได้ ‘บิ๊กตู่’ ไฟเขียว แล้วเจอ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งสัญญาณไฟแดงให้ ส.ว.สายป่ารอยต่อฯ คนชื่อ ‘เศรษฐา’ คงไม่มีวันนี้

ถ้าจะล้อเลียนว่า ‘มีวันนี้เพราะตู่ให้’ คงไม่ผิดเสียทีเดียว

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มันทำให้ความสัมพันธ์ของ ‘3 ป.’ ที่หยั่งรากลึกซึ้งมายาวนานหลายสิบปีสั่นคลอน 

และคนที่เจ็บปวดที่สุดคือ คนชื่อ ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ ที่ไม่คิดว่า น้องเล็กคนสุดท้ายใน 3 ป. จะตัดสินใจแบบนี้

การกระทำของ ‘บิ๊กตู่’ ทำให้แผนการผลักดัน ‘บิ๊กป้อม’ สู่ยอดอำนาจฝ่ายบริหารของบางฝ่ายในพรรคพลังประชารัฐพังครืนแบบไม่มีชิ้นดี

เพราะมีกระแสข่าวว่า ‘พลังประชารัฐ’ พยายามต่อรองอย่างหนักกับ ‘เพื่อไทย’ เรื่องโควตารัฐมนตรีในกระทรวงใหญ่ โดยใช้เสียง ส.ว.สายป่ารอยต่อฯ เป็นเครื่องมือต่อรอง

แน่นอนว่า แผนนี้ หาก ‘ลุงตู่’ กับ ‘ลุงป้อม’ จับมือกันแน่น ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ ‘เศรษฐา’ จะฝ่าด่านหินนี้มาได้ 

แต่ปัญหาคือ ‘ลุงตู่’ ไม่เล่นด้วย ขณะเดียวกัน ยังมีการเจรจาลับๆ กับทาง ‘เพื่อไทย’ อีกต่างหาก

ว่ากันว่า ความตั้งใจแรกนั้นถึงขั้นจะไม่เอา ‘พลังประชารัฐ’ อยู่ในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเลยทีเดียว เพราะเสียงเพียงพอแล้ว

‘ลุงตู่’ ไม่ได้โกรธ ‘ลุงป้อม’ ที่ลูกน้องเคยกระทำการไม่ดีกับตัวเอง แต่เป็นเพราะเคียดแค้นบริวารและองคาพยพของ ‘ลุงป้อม’ บางคน

‘ลุงตู่’ นั้นรู้ว่า ‘ลุงป้อม’ ถ้าไม่ได้นายกรัฐมนตรี ก็คงไม่นั่งเก้าอี้อะไรในคณะรัฐมนตรีอยู่แล้ว แต่คนที่จะขึ้นเป็นใหญ่ล้วนเป็น ‘โจทก์’ ของตัวเองทั้งสิ้น

ปฏิบัติการขวางทาง หรือสกัดกั้นการเข้าสู่อำนาจที่ยิ่งใหญ่จึงเกิดขึ้น 

ผลคือ ‘พลังประชารัฐ’ แทบไม่เหลืออำนาจต่อรองอะไรในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในวันนี้เลย เขาเกลี่ยอะไรให้ ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัวรับเอาไว้

กลายเป็นเพียง ‘ไม้ประดับ’ ในแจของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีไว้เพื่อบาลานซ์ดุลอำนาจเท่านั้น เพื่อไม่ให้กลายเป็นศัตรูกันในวันหน้า

ฝันของ ‘บิ๊กป้อม’ ดับลง และยังไม่เห็นทางที่จะคัมแบ็กกลับมา

ขณะที่ ‘ลุงตู่’ เสร็จภารกิจสำคัญ เก็บของกลับบ้าน ด้าน ‘ลุงป๊อก’ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไม่เล่นการเมืองต่ออยู่แล้ว

เมื่อ ‘เศรษฐา’ ขึ้นสู่อำนาจ ผลัดเปลี่ยนสู่ยุคเพื่อไทยอีกครั้ง ‘3ป.’ ถือคราวแยกย้าย

ศูนย์กลางอำนาจทางการเมืองเปลี่ยน 

ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะ ‘ลุงตู่’ ที่ตัดสินใจปิดสวิตซ์ 3 ป.ด้วยมือตัวเอง

เริ่มเอง จบเอง นักเลงพอ

แสดงความเห็น