“สมาคมชาวไร่อ้อย 5 จังหวัด” ร้อง “ส.ส.เพื่อไทย” ช่วยตามเงินหนุนตัดอ้อยสด ลดการเผาไหม้ หลังปีล่าสุดยังไม่ได้ “สมศักดิ์” ชี้ สถิติเผาอ้อย สูงขึ้นต่อเนื่อง 26-32% ทำโครงการชะงัก ขอเร่งลดการเผา ต่อสายตรงปลัดอุตสาหกรรม รับแก้ปัญหาให้ ยัน ดูแลเกษตรกรไม่เผาอ้อยเต็มที่
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัย นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล ส.ส.สุโขทัย นางสาว ประภาพร ทองปากน้ำ ส.ส.สุโขทัย นายรวี เล็กอุทัย ส.ส.อุตรดิตถ์ นายสมเจตน์ แสงเจริญรัตน์ ส.ส.เลย นายณพล เชยคำแหง ส.ส.หนองบัวลำภู นายนิพนธ์ คนขยัน ส.ส.บึงกาฬ นายนพพล เหลืองทองนรา ส.ส.พิษณุโลก และ นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยสุภกิจเจริญ ส.ส.พิษณุโลก ได้รับหนังสือร้องเรียนจากสมาคมชาวไร่อ้อย 5 จังหวัด ประกอบด้วย สิงห์บุรี นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ และสุโขทัย ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย เพื่อขอให้ช่วยติดตามเงินสนับสนุนช่วยเหลือจากรัฐบาล ในโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5
โดยตัวแทนสมาคมชาวไร่อ้อย 5 จังหวัด กล่าวว่า หลังคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ให้ได้รับเงินสนับสนุนช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสดให้กับชาวไร่อ้อย 2 ฤดูการผลิต คือ ปี 2564/2565 และปี 2565/2566 แต่ในปีนี้ ได้มีการตัดอ้อยคุณภาพดี เสร็จสิ้นไปตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 แต่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ตามโครงการดังกล่าว ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการตัดอ้อยไฟไหม้ เป็นตัดอ้อยสด จึงขอให้ช่วยติดตามให้รัฐบาล จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ในฤดูการผลิตปี 2565/2566 ในอัตราตันละ 120 บาท เป็นการเร่งด่วน
“ความแตกต่างระหว่างการตัดอ้อยสด กับตัดอ้อยไฟไหม้ จะมีค่าใช้จ่ายต่างกันอยู่ที่ตันละ 120 บาท เนื่องจากการตัดอ้อยไฟไหม้ ค่าใช้จ่ายจะถูก และตัดได้เร็วกว่ามาก แต่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ก็เข้าใจว่า จะเกิดฝุ่น PM 2.5 จึงเข้าร่วมโครงการตัดอ้อยสด แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีต้นทุนที่สูงกว่า พอรัฐบาล มีเงินสนับสนุนตรงนี้ ก็ทำให้เกษตรกรไปต่อได้ แต่ในปีนี้ พวกเรายังไม่ได้เงินสนับสนุน อาจเป็นเพราะช่วงเปลี่ยนปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมคนใหม่ ที่ทางกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความเห็นว่า การตัดอ้อย ไม่ควรได้รับเงินช่วยเหลือ ตันละ 120 บาท แต่จะให้ความช่วยเหลือเรื่องเครื่องจักรแทน ซึ่งต้องยอมรับว่า ปีนี้ เกษตรกร ได้ลงทุนและตัดอ้อยเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ถ้าไม่มีความชัดเจนเรื่องการช่วยเหลือ ในปีหน้าการตัดอ้อย เกษตรกร ก็จะกลับไปตัดอ้อยไฟไหม้อีก เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่า และปัญหาอ้อยไฟไหม้ก็จะกลับมาอีก” ตัวแทนสมาคมชาวไร่อ้อย 5 จังหวัด กล่าว
ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า โครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดี ถือเป็นโครงการที่ดี เพราะช่วยแก้ปัญหาการเผาไหม้ ที่ทำให้เกิด PM 2.5 เกิดเขม่า และควันไฟรบกวน รวมถึงทำให้เกิดโลกร้อนตามมา จึงมีโครงการสนับสนุน เพื่อให้ลดการเผาไหม้ มาเป็นตัดสด แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตัวเลขสถิติการเผาอ้อย ไม่ได้ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นอีก โดยปีแรกของโครงการ พบการเผาอ้อย 26% ปีที่ 2 เพิ่มเป็น 27% และปีนี้ที่ยังไม่ได้เงินสนับสนุน ก็พบเผาอ้อยถึง 32% จะเห็นได้ว่า สถิติการเผาอ้อยนั้น สูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมคนใหม่ ก็มีความกังวล เพราะโครงการนี้ เราทำเพื่อไม่ให้เกษตรกรเผาอ้อย แต่ปรากฏว่า ผลยังไม่ดีขึ้น ซึ่งตนรู้จักกับปลัดกระทรวง ก็ต้องยอมรับว่า เขามีใจให้กับพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างมากอยู่แล้ว โดยพี่น้องเกษตรกร ต้องให้เหตุผลว่า ทำไมยังเผาอยู่ ซึ่งตนก็ทราบว่า มาจากปัญหาขาดแรงงาน รวมถึงในช่วงตัดอ้อย เกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้รถตัดอ้อย เข้าพื้นที่ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการเดิมอยู่
“ผมได้รับทราบแนวทางการแก้ปัญหาของสมาคมชาวไร่อ้อย เพื่อลดปริมาณการเผาอ้อยลง ด้วยการจะหักเงิน โดยหากใครเผาอ้อย จะถูกหักเงินตันละ 90 บาท ซึ่งนี่เป็นแนวทางของสมาคมชาวไร่อ้อย ซึ่งผมก็จะรับไปพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยผมได้มีโอกาสโทรศัพท์พูดคุยกับท่านปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ท่านก็พร้อมที่จะรับข้อเสนอและแนวทางของสมาคมชาวไร่อ้อยไปพิจารณา และหาทางออกในแต่ละเรื่องให้ พร้อมยืนยันว่า กระทรวงอุตสาหกรรม มีความตั้งใจที่จะช่วยชาวไร่อ้อย ที่ไม่ใช้วิธีการเผาอย่างเต็มที่ ดังนั้น จากนี้ สมาคมชาวไร่อ้อย ก็ต้องช่วยกันลดปัญหาการเผาอ้อยด้วย เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็จะได้สามารถเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างเต็มที่” นายสมศักดิ์ กล่าว
แสดงความเห็น
