“ชินวรณ์” ไม่สบายใจสภาฯสร้างภาพ-ดราม่า วอน ส.ส.ช่วยกันกอบกู้ภาพลักษณ์

“ชินวรณ์” ไม่สบายใจสภาฯสร้างภาพ-ดราม่า หลังมี ส.ส.กรีดแขน-หว่านข้าวกลางสภาฯ วอน ส.ส.ช่วยกันกอบกู้ภาพลักษณ์ ชี้ 1 พ.ย.สภาไม่ได้ล่ม แต่ ส.ส.ไม่ยอมแสดงตน ทั้งที่ร่วมอภิปราย

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ  ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์  ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นภายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลโดยตรงกับภาพลักษณ์ของสภา ทำให้สภาถูกกล่าวหาในเรื่องบทบาทการทำงานและประสิทธิภาพ ทั้งเรื่องสภาล่มและเรื่องดราม่า ซึ่งในระบบรัฐสภาองค์ประชุมถึงเป็นความรับผิดชอบของ ส.ส.ทุกคน เพราะในบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญได้กำหนดอย่างชัดเจนว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องมีฐานะเป็นตัวแทนของประชาชนและต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่โดยสุจริต โดยปราศจากการครอบงำ ดังนั้นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงไม่ถือว่าองค์ประชุมล่ม แต่เนื่องจากมีสมาชิกบางพรรคการเมืองเข้าร่วมประชุม และอภิปราย แต่ไม่แสดงตน ซึ่งถ้าสมาชิกไม่เห็นด้วยกับการนำเสนอกฎหมายของรัฐบาล ก็มีสิทธิ์จะโต้แย้งหรืออภิปรายคัดค้านได้อย่างเต็มที่ และหากเสียงข้างมากไม่รับฟังเสียงข้างน้อย เสียงข้างน้อยก็มีสิทธิ์ที่จะวอร์คเอ้าท์ออกจากที่ประชุมได้ แต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 พ.ย.นั้น ฝ่ายค้านก็ได้อภิปรายสนับสนุนมาโดยตลอด แต่เมื่อถึงเวลาในการลงมติ กลับไม่กดบัตรแสดงตน

นายชินวรณ์ กล่าวว่า ตนได้แจ้งต่อประธานวิปรัฐบาลคนใหม่แล้วว่าจะต้องหารือร่วมกัน เพื่อให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะเดียวกัน การอภิปรายของ ส.ส.ในช่วงหลังนี้ ตนมองว่า สร้างภาพและแสดงดราม่าเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น เช่น เหตุการณ์กรีดแขนและหว่านข้าว ซึ่งเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา ก็มีเหตุการณ์ดราม่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการขี่ควายเข้าสภา เป็นต้น แต่ในยุคนี้ประชาชนไม่เห็นด้วยที่จะเอามีดมากรีด หรือเอาข้าวมาหว่าน ส.ส.ควรนำเสนอข้อเท็จจริงและข้อมูลด้วยตัวเลขเพื่อมายืนยันต่อสภา จึงอยากขอความร่วมมือให้ ส.ส.ทุกคนร่วมกอบกู้และสร้างภาพลักษณ์ของสภาที่ถูกต้องต่อไป ตนจะไม่ปกป้องฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน แต่วันนี้ตนจะปกป้องภาพลักษณ์ของสภา

สำหรับบทบาทของประธานวิปรัฐบาลคนใหม่จะสามารถขับเคลื่อนให้การดำเนินงานในสภาเป็นไปด้วยความสำเร็จเรียบร้อยได้หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า การเมืองในยุคหลังมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ตนจึงขอให้กำลังใจไปยังประธานวิปรัฐบาลคนใหม่และให้ประชาชนช่วยติดตามบทบาทการทำงานของประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ต่อไป ทั้งนี้ในฐานะที่ตนเป็นประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ และรองประธานวิปรัฐบาล ยืนยันว่า จะร่วมทำงานให้มีความเป็นเอกภาพในพรรคร่วมรัฐบาล ขณะเดียวกัน วิปรัฐบาลก็ควรเปิดโอกาสให้วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภาเข้ามาตัดสินใจร่วมกัน โดยใช้เวทีคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ให้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป วิปรัฐบาลจะย้ายไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ดังนั้นวิปรัฐบาลจะต้องประสานงานกับประธานสภาผู้แทนราษฎรและวิปฝ่ายค้าน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

แสดงความเห็น