![CD5881DA-7B86-4A39-83FB-656B614A3156](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2019/12/CD5881DA-7B86-4A39-83FB-656B614A3156-696x392.jpeg)
![](https://theagendathai.com/images/728.jpg)
ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คณะกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกมธ.ดีอีเอส นำโดย น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ประธานคณะกรรมาธิการฯ พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมาธิการฯ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ และคณะเข้ารับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับ กสทช. โดยมี พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช. ให้การต้อนรับ
![](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2019/12/1C3847AB-FDD8-4B5A-AC17-EE34D2F9A42D-1024x576.jpeg)
โดย น.ส.กัลยา ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ กมธ.ดีอีเอส ได้ฟังความก้าวหน้าในการดำเนินการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและโทรคมนาคม รวมถึงการจัดโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยที่ประชุมหารือถึงการดำเนินโครงการอินเทอร์เน็ตตามแนวชายขอบ หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) การให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะประจำหมู่บ้าน (USO net) ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) โดยทางกรรมาธิการฯ ได้แนะนำให้ กสทช. ต้องใช้ความรอบคอบระมัดระวังในการตรวจรับงานจาก ทีโอที เนื่องจากที่ผ่านมาทาง กมธ.ดีอีเอส ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินโครงการดังกล่าวที่จังหวัดหนองคาย ทำให้เห็นว่าโครงการมีประโยชน์ อาจยังมีความไม่สมบูรณ์ในบางจุด และดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นจึงได้มีการเสนอประเด็นให้ขึ้นแบล็คลิส กับบริษัท ทีโอที ไม่ให้เข้าร่วมในการในการประมูลใหม่ ซึ่งทาง กสทช. ก็ได้ตอบรับและเห็นว่าไม่น่าจะให้ทีโอทีเข้าประมูลใหม่ได้ แล้วการประมูลที่อาจจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2563 จะต้องดำเนินการให้เกิดกับประชาชนสูงสุด โดยเปิดให้บริษัทที่มีความพร้อมให้เข้ามาแข่งขัน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้อินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ช่วยสร้างประโยชน์ด้านการศึกษาออนไลน์ การสาธารณสุขทางไกล
“ทางกรรมาธิการฯ เห็นความสำคัญของโครงการ USO net จึงได้กำชับในเรื่องการวางแผนดำเนินโครงการดังกล่าว ให้ต่อเนื่อง และทำให้สมบูรณ์ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชนจริงๆ จึงจะรอช้าไม่ได้” ประธานกมธ.ดีอีเอส กล่าว
ด้านพ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ทาง กมธ.ดีอีเอส โดยเฉพาะท่านสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาฯ ได้ให้ความสนใจในการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ที่จะรองรับเทคโนโลยี 5G ในอนาคต ซึ่ง 5G จะเกิดประโยชน์อย่างมากในเรื่องของการศึกษาที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป เพื่อที่จะรองรับระบบ Automation ต่างๆ ซึ่งเป็นรูปแบบของงานใหม่ที่จะเข้ามาแทนรูปแบบงานเดิม ทำให้ระบบการศึกษาจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เท่าทันกับงานที่เปลี่ยนไป กรรมาธิการฯ จึงได้แนะนำให้ กสทช. ได้ใช้กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) หรือกองทุนอื่นๆที่รัฐมี ให้ทุ่มไปที่การพัฒนาบุคลากร เพื่อเพิ่มทักษะให้กับแรงงานให้ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดแรงงานของโลกอนาคต โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินการในรูปแบบให้มีปริญญาบัตร แต่ดำเนินในลักษณะเพิ่มทักษะแบบเฉพาะเจาะจง สร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
“เรื่องนี้ต้องทำอย่างเร่งด่วน เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ประเทศไทยสูญเสียศักยภาพด้านทรัพยากรบุคคลไป ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็ง” รองประธานกมธ.อีดีเอส กล่าว
แสดงความเห็น
![](https://theagendathai.com/images/728.jpg)