นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีแฮกเกอร์ที่เข้ามาป่วนเวปไซด์ของธนาคารกรุงไทย ในระหว่างการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน “ชิม ช้อป ใช้ เฟส 2” ว่า สามารถใช้เวลาเพียงไม่กี่วันติดตามตัววัยรุ่นผู้กระทำการแฮกดังกล่าวจนรู้ว่าอยู่ที่ไหน และขออนุมัติศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 28 ต.ค. ตอนเย็นและจับกุมตัวมาได้
“เบื้องต้นมีรายเดียว เป็นชายหนุ่มอายุราว 19 – 20 ปี ชาวปัตตานี เป็นคนมีความสามารถด้านไอที เทคโนโลยี และสารภาพว่าได้กระทำจริง มีการยึดอุปกรณ์ทั้งคอมพิวเตอร์ ซิมการ์ดจำนวนมาก เครื่องมือสื่อสาร ตอนนี้นำตัวมาที่ กทม. แล้ว” นายพุทธิพงษ์กล่าว
รมว.ดีอี กล่าวว่า ว่าจากการติดตามแลจับกุมได้ในไม่กี่วันนั้น แสดงว่าระบบความปลอดภัยไซเบอร์ของเรายังใช้ได้ บุคลากรของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และกระทรวงดีอีมีความเข้มแข็ง มีกระบวนการติดตามคนที่โจรกรรมข้อมูล หรือคนที่คิดไม่ดีได้
เมื่อถามว่า นโยบายของตัวรัฐมนตรีเองเน้นการปราบ การปราม การเตือน หรือการลงโทษทางกฎหมายนั้น นายพุทธิพงษ์กล่าวว่าต้องทำรวม ๆ กันทั้งหมดประกอบกัน เพราะเรื่องไซเบอร์มีความรวดเร็ว เราต้องเริ่มจากการปราม การเตือนก่อนที่ต้นเหตุ แต่ถ้าไปถึงปลายเหตุแล้ว เช่นมีการโจรกรรมข้อมูลที่สำคัญก็ต้องติดตามจนจับตัวมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
“กรณีนี้ถือว่ายังไม่ทันได้ก่อความเสียหายใด ๆ ระบบที่ทำไว้ดีมาก เพียงแต่ต้องยอมรับว่าก็เกือบเหมือนกัน เพราะผู้แฮกมีความสามารถพอสมควร ทำให้ระบบมันช้ามากหน่วงมาก จนประชาชนเข้าถึงได้ช้า เราได้รับแจ้งมาตั้งแต่ 9.00 น. ของวันที่สอง ทางทีมงานสามารถดำเนินการได้ตอนบ่ายโมง และทำให้ดำเนินการต่อเป็นปรกติได้ในเวลา 17.00 น.” นายพุทธพงษ์กล่าว
เมื่อถามว่ามีรายงานเบื้องต้นว่าเป็นความคะนองส่วนตัวหรือมีผู้บงการเบื้องหลังนั้น รมว.ดีอีกล่าวว่ายังไม่มีรายละเอียดว่าไปโยงใยกับใคร แต่จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมช่วงบ่ายวันนี้