ศิธา ร่วมตั้งพรรคไทยสร้างไทย ชวนคนไทยสนับสนุน หากไม่อยากให้มนุษย์ลุงปู้ยี้ปู้ยำประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงงานแถลงของพรรคไทยสร้างไทย ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เป็นประธาน เพื่อประกาศภารกิจและพันธกิจสำคัญของพรรคไทยสร้างไทย  เพื่อย้ำถึงเป้าหมายของพรรคต่อการเดินหน้าสร้างประเทศไทย โดยมีแกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคได้ร่วมประกาศวิสัยทัศน์ของพรรค อาทิ นายโภคิน พลกุล, นายวัฒนา เมืองสุข, น.ต.ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย

ผู้สื่อข่าวรายยงานว่า ในเวทีดังกล่าว น.ต.ศิธา  ได้ประกาศตัวเป็นครั้งแรก ต่อการหวนคืนสู่วงการการเมือง อีกครั้งในรอบ 15 ปี เพราะเห็นความสำคัญต่อการร่วมสร้างอนาคตให้ประเทศไทย พร้อมสนับสนุนการก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทยของ คุณหญิงสุดารัตน์

น.ต.ศิธา กล่าวด้วยว่า การรัฐประหาร ปี 2549 ที่ตนถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ฐานะเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ทั้งที่ไม่ได้ร่วมกระทำความผิด  และต่อมามีคำพิพากษายกฟ้องการกระทำที่เป็นต้นเหตุให้ 111 กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิทางการเมือง ทำให้เห็นว่าในยุคดังกล่าวสามารถทำสิ่งที่ถูกให้เป็นผิดได้ แต่การเมืองปัจจุบันพบว่าสิ่งที่ผิดนั้นทำให้เป็นถูก ผู้นำไม่ต้องยึดโยงกับประชาชน ฝังกลไกไว้ในรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ตั้งคนของตนเอง เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี แม้ผู้นำไม่ทำสิ่งที่ถูกใจประชาชน ยังสามารถดำรงตำแหน่งได้ และยุคที่การตรวจสอบถ่วงดุลในสภาฯ ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 3 วัน 3 คืน แฉความผิดให้เห็นชัดเจน ไม่โปร่งใส มีพฤติกรรมไม่ชอบ แต่การชี้แจงของผู้นำพูดเพียง 3 ประโยค ว่า สิ่งที่พูด 3 วัน 3 คืนนั้นโกหก และได้คะแนนไว้วางใจบริหารประเทศต่อไปได้

น.ต.ศิธา กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานการณ์โควิด-19  คนไทยมีเงินสามารถซื้อวัคซีนดีๆ เสียสละจ่ายเงินตนเองเพื่อประกอบอาชีพได้ แต่มีเงินไม่สามารถซื้อได้ ต้องฉีดวัคซีนที่ไม่ได้ผล ซึ่งคนไทยมาถึงยุคที่มีเงินไม่สามารถรักษาชีวิตตนเองได้ ต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน กับการประกอบอาชีพ พบผู้คน ซึ่งการเดินพันด้วยชีวิตหากพลาดต้องเสียชีวิต

“ปัจจุบันคนเดือดร้อนถ้วนหน้า แต่ผู้นำทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ทำทุกอย่างเพื่อรักษาตัวเอง ออกกฎหมายพิเศษ เขียน รัฐธรรมนูญ เอื้อให้พรรคพวกและการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับประชาชน คือ การนำเข้าวัคซีนให้รวดเร็ว หลากหลาย เพื่อให้ประชาชนมีตัวเลือกไม่สามารถทำได้ ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันบริหารประเทศที่ทำให้สังคมมีความเหลื่อมล้ำสูงสุดในโลก หากคนไทยมองว่าการเมืองสกปรก เป็นขยะที่เน่าเหม็น ขอให้กลั้นใจมาช่วยเก็บขยะ เพราะประเทศที่เป็นประชาธิปไตยต้องดำเนินด้วยนักการเมือง จะปฏิเสธนักการเมืองไม่ได้ ดังนั้นหากไม่อยากให้มนุษย์ลุงปู้ยี้ปู้ยำ ต้องกลั้นใจมาช่วยกันเก็บขยะที่เน่าเหม็น” น.ต.ศิธา กล่าว

แสดงความเห็น