นายกฯ เดินหน้าปราบยาเสพติด-นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความก้าวหน้าปฏิบัติการ “พาลีปราบยา” ภายใต้นโยบายของรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เปิดปฏิบัติการ “ยุทธการพิทักษ์ไทย ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด” โดยมีเป้าหมายให้เข้าถึงตัวผู้บงการหรือผู้ค้ายารายใหญ่  สืบสวนเส้นทางการเงินเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกราย  ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563  – 31 มีนาคม 2564  สามารถจับกุมคดียาเสพติดภาพรวม 163,603 คดี  ผู้ต้องหา 170,467 ราย ของกลางยาบ้า 298 ล้านเม็ด ไอซ์ 16,041 กิโลกรัม กัญชา 15,848 กิโลกรัม เฮโรอีน 2,977 กิโลกรัม คีตามีน 803 กิโลกรัม โคเคน 22 กิโลกรัม เอ็กซ์ตาซี่ 241,591 เม็ด สามารถยึดอายัดทรัพย์คดียาเสพติด มูลค่า 3,142.81 ล้านบาท   โดยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังย้ำให้เดินหน้ามาตรการปราบปรามยาเสพติด ควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้และภูมิคุ้มกันในกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย รวมถึงกลุ่มเสี่ยงที่เป็นแรงงานนอกระบบด้วย  ขณะเดียวกันก็เน้นบำบัดรักษายาเสพติด นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาที่เหมาะสม บำบัดฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง (CBTx) ดูแลผู้ผ่านการบำบัด โดยใช้กลไกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)  สำหรับผลดำเนินการตอบสนองต่อข้อร้องเรียนของประชาชน ผ่านสายด่วน 1386 ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 30 มีนาคม 2564  จำนวนทั้งสิ้น 8,265 เรื่อง สามารถดำเนินการ 5,173 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 62.59  ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสหรือพบปัญหายาเสพติดผ่านทางโทรสายด่วน 1386  

นายอนุชา กล่าวว่า​ ในส่วนการปลดล็อกพืชกระท่อมนั้น ขณะนี้รัฐบาลได้เสนอกฎหมายใหม่ 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อถอดพืชกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ซึ่งผ่านการพิจารณาจากวุฒิสภาแล้ว เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์2564 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเสนอนายกรัฐมนตรีนำร่างขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยจะมีผลบังคับใช้หลัง 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา  และ ร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. ….  ที่เน้นการป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้นำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา​ และนอกจากการป้องกันปราบปรามยาเสพติดแล้ว นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญและให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องค้ามนุษย์ ทุจริตคอร์รัปชั่น และการฮั้วประมูลต่าง ๆ อีกด้วย

แสดงความเห็น