สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ กรมบังคับคดี จัด “มหกรรมขายทอดตลาดทรัพย์สิน” คดียาเสพติดทั่วประเทศ โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมขายทรัพย์สินต่าง ๆ จำนวนกว่า 800 รายการ มูลค่ารวมประมาณกว่า 30 ล้านบาท ประกอบด้วย ทองรูปพรรณ เครื่องประดับ ยานพาหนะ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ และอาวุธปืน ส่วนกลาง ณ สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) และส่วนภูมิภาค ณ ที่ตั้งสำนักงาน ปปส. ภาค 1, ภาค 3-8 และที่เก็บรักษาทรัพย์สินของสำนักงาน ปปส. ภาค 2 และ ภาค 9
การขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติด เป็นมาตรการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เป็นไปตามตามนโยบายเร่งด่วนของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งหนึ่งในการดำเนินงานที่สำคัญ คือ การดำเนินการต่อทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติด โดยมีพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด พ.ศ. 2534 เป็นเครื่องมือหลักในการจัดการกับทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติดและกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อเป็นการตัดวงจรทางการเงิน โดยทรัพย์สินที่นำมาขายทอดตลาดเป็นการรวบรวมจากการยึดอายัดทรัพย์สินจากหลายๆ คดี ซึ่งภายหลังจากคดีเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทรัพย์สิน โดยคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินแล้ว คดีจะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาล เพื่อมีคำสั่งริบทรัพย์สินตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดต่อไป นอกจากนี้ยังมีกระบวนการตามกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับโทษปรับคดียาเสพติดตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 ในอันที่จะลงโทษทางด้านทรัพย์สินกับนักค้ายาเสพติดอีกมาตรการหนึ่งด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “การขายทอดตลาดเป็นการดำเนินการบริหารจัดการทรัพย์สิน ให้เป็นไปตามที่กฎหมายและระเบียบกำหนดอย่างมีประสิทธิภาพ เงินที่ได้จะนำเข้ากองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อนำมาใช้ในการสนับสนุนงบประมาณในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และถือเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับรัฐบาล โดยข้อมูลนับตั้งแต่มีการประกาศใช้ในปี 2535 มีการยึดอายัดทรัพย์สินไปแล้ว จำนวน 42,274 คดี มูลค่าของทรัพย์สินที่ยึด หรืออายัด 25,015 ล้านบาท โดยตั้งแต่ปี 2552-2562 ทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดและตกเป็นของกองทุนฯ จำนวน 2,105,078,260 บาท ซึ่งนำมาใช้เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด 4 ด้าน คือ 1. ด้านป้องกัน 2. ด้านปราบปราม 3. ด้านบำบัดฟื้นฟู 4.ด้านบุคลากร
รวมถึงช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด ตลอดจนเป็นเงินสินบนรางวัลให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับข้อมูลทรัพย์สินของกลุ่มนักค้ายาเสพติด และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินคดีนั้นๆ ต่อไป”