นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้ตนกังวลเพราะเคยคิดว่างบประมาณจะได้ใช้เต็มรูปแบบภายในเดือนก.พ. แต่เมื่อเกิดปัญหาที่มีผู้ร้องว่ามีส.ส.เสียบบัตรแทนกันในวันลงมติ จึงต้องยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด อาจใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง และเนื่องจากไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 เป็นการใช้จ่ายงบประมาณปี 2562 ไปพลางก่อน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายรายจ่ายประจำและโครงการที่มีความต่อเนื่อง ดังนั้นรัฐบาลอาจต้องขยายวงเงินเบิกจ่ายจากที่ไตรมาสแรกที่เรามีเพดาน 30% ดังนั้นควรจะให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้ก่อนเพิ่มเป็น 60-65% โดยควบระหว่างไตรมาสที่ 1 และ 2 ใช้ไปก่อน น่าจะพอสามารถแก้ไขปัญหาไปได้เพราะเป็นเหตุการณ์จำเป็น ซึ่งตนคิดว่าหากนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ประชุมคงจะเห็นด้วยอยู่แล้ว
“ผมเชื่อว่าทุกฝ่ายจะเห็นด้วยไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เพราะมีปัญหาเดือดร้อนกันหมด เราต้องช่วยกันรับผิดชอบร่วมกัน อย่างโครงการก่อสร้างต่างๆของรัฐ หากผู้รับเหมาเบิกเงินไม่ได้อาจจะเกิดการทิ้งงาน เพราะในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างของโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไปก่อนได้ แต่จะลงนามในสัญญาต่อเมื่องบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 มีผลบังคับใช้และได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ควรต้องออกมาโดยเร็ว ทั้งนี้ผมขอวิงวอนขอศาลรัฐธรรมนูญ เร่งแก้ปัญหาให้จบโดยเร็ว แต่เราจะไปสั่งศาลท่านไม่ได้จึงได้แต่ขอวิงวอน บ้านเมืองจะได้ไม่ต้องเกิดความวุ่นวาย ผมขอให้ศาลท่านเป็นพระเอกช่วยแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด” นายสมศักดิ์ กล่าว