แค่ปรากฏชื่อว่า ได้นั่งใน ‘ครม.เศรษฐา 1’ ก็ถูกสังคมวิจารณ์ขรมถึงเรื่องภาพลักษณ์-ความเหมาะสม
2 รายที่กลายเป็น ‘สายล่อฟ้า’ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มที่ว่า คือ ‘ชาดา ไทยเศรษฐ’ สส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีชื่อจะนั่ง ‘รมช.มหาดไทย’
กับ ‘พิชิต ชื่นบาน’ ทีมกฎหมาย ‘ตระกูลชิน’ ที่มีชื่อคั่วเก้าอี้ ‘รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี’
‘ชาดา’ ถูกแขวะหนักหน่อย โดยเฉพาะภาพ ‘มาเฟีย’ ในอดีตที่ยังลบล้างไม่ออก
กับเหล่าด้อมส้ม ที่พยายามสังเกตบุคลิกและเอาไปโยงกับเรื่องยาเสพติด จนถึงขั้นแซวกันให้ ‘ตรวจฉี่’
และแม้ ‘ชาดา’ จะออกมาแสดงความบริสุทธิ์ว่า พร้อมตรวจทั้งปัสสวะ และเลือด แต่เหล่าฝ่ายตรงข้ามยังไม่หยุด พยายามดิสเครดิตต่อเนื่อง
ย้อนดูที่มาของ ‘ชาดา’ ทำไมพรรคภูมิใจไทยถึงกล้าดันเป็นเสนาบดี ทั้งที่เป็น ‘สายล่อฟ้า’
จริงๆ แล้ว ‘ชาดา’ ได้โควตารัฐมนตรีมาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 จากผลงานกวาด สส.อุทัยธานี ยกจังหวัด 3 ที่นั่ง และมีส่วนในจังหวัดละแวกใกล้เคียง
แต่ชื่อของ ‘ชาดา’ ในตอนนั้นไม่ผ่านเซนเซอร์ จากภาพลักษณ์ในอดีต ทำให้ต้องแก้สถานการณ์ด้วยการส่ง ‘มาดามแหม่ม’ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาวสุดที่เลิฟ มานั่ง ‘รมช.เกษตรและสหกรณ์’ เพื่อรักษาโควตาตัวเอง
มาครั้งนี้ ‘ชาดา’ ประสบความสำเร็จในสนามเลือกตั้งอีกครั้ง ยังรักษาฐานที่มั่น จ.อุทัยธานีได้แบบ 100% ผนวกกับจังหวัดบ้านใกล้เรือนเคียงในความรับผิดชอบ จึงทำให้ได้โควตาอีกครั้ง
คราวนี้เหมือนทางของ ‘ชาดา’ จะเปิดมากขึ้น จากวีรกรรมอภิปรายคัดค้านการแก้ไข ม.112 ระหว่างการประชุมร่วมสองสภา เพื่อโหวต ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี
ซีนวันนั้นของ ‘ชาดา’ ทำให้ได้ใจกองเชียร์ โดยเฉพาะฝ่ายอนุรักษ์นิยม พร้อมกับสัญญาณ ‘ไฟเขียว’ หากจะนั่งเก้าอี้เสนาบดี
คราวนี้ ‘ภูมิใจไทย’ จึงไม่กังวล ส่งชื่อ ‘ชาดา’ นั่งเป็นรัฐมนตรี
ขณะที่ ‘พิชิต’ ชื่อนี้หลายคนเซอร์ไพร์ส ที่พรรคเพื่อไทยกล้านำเสนอ เพราะมีบาดแผลเรื่องคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีหิ้วถุงขนม 2 ล้าน ระหว่างพิจารณาคดีที่ดินรัชดาภิเษก เมื่อหลายปีก่อน
แต่วงในไม่แปลกใจ เพราะ ‘พิชิต’ คือ สายตรงนายใหญ่-นายหญิง เป็นทนายให้ ‘ตระกูลชินวัตร’ มาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย
ทุกคดีสำคัญของอดีตนายกรัฐมนตรีจาก ‘บ้านชินวัตร’ เขาและทีมกฎหมาย ล้วนเป็นหัวเรือใหญ่ในการต่อสู้คดี แม้ผลลัพธ์จะพ่ายแพ้เป็นส่วนใหญ่ก็ตาม
แต่ ‘พิชิต’ เป็นทนายที่พร้อมสู้ถวายหัวให้นายใหญ่-นายหญิงมาตลอด ยอมเสี่ยงที่จะเข้าคุกเข้าตะราง ซึ่งคนในตระกูลชินวัตรไว้วางใจ
ฉะนั้น เมื่อมีโอกาส ชื่อของ ‘พิชิต’ จึงถูกส่งเข้ามาในโควตาสายตรง
งานหลักของ ‘พิชิต’ คือ การดูแลเรื่องกฎหมายให้กับรัฐบาล ประสานงานกับสภาผู้แทนราษฎร มาคอยช่วย ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ที่ทำเนียบรัฐบาล
แม้จะฝ่ากระแสสังคมขึ้นมาเป็นเสนาบดีได้ แต่เชื่อว่า จะตกเป็นเป้าของฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน