ภท.เนื้อหอม-พลังดูดแรง เสริมแกร่ง-สานฝัน เป็นรบ.ทุกขั้ว

การได้ส.ส.เพิ่มขึ้นมา 3 คนภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงของ “พรรคภูมิใจไทย”ในช่วงสองวันที่ผ่านมา

ไล่ตั้งแต่กลางดึกคืนวันจันทร์ที่ 14 ก.พ. ที่ได้ “กลุ่มช่างเหลา-ขอนแก่น” ทั้งเอกราช ช่างเหลา อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐและวัฒนา ช่างเหล่า ส.ส.ขอนแก่น พลังประชารัฐ ที่เปิดตัวเข้าพรรคภูมิใจไทย กลางงานแต่งงานลูกชายเอกราช ที่ขอนแก่นในคืนวันดังกล่าว

จากนั้นในช่วงบ่ายๆ วันรุ่งขึ้น อังคารที่ 15 ก.พ.ก็ได้ “เฮียเบี้ยว-สมศักดิ์ พันธ์เกษม อดีตส.ส.นครราชสีมา พลังประชารัฐ” ที่ย้ายไปใส่เสื้อภูมิใจไทย ตามหลังกลุ่มช่างเหลา โดยทั้งสามคน เลือกที่จะไม่ไปอยู่กับ พรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมกับกลุ่มธรรมนัส พรหมเผ่า 

สิ่งที่เกิดขึ้นทำเอา “หุ้นการเมือง” ของภูมิใจไทย พุ่งขึ้นทันที ที่แน่นอน มันทำให้ทั้ง “เนวิน ชิดชอบ-อนุทิน ชาญวีรกูล” สุดจะแฮปปี้

เพราะชื่อชั้นของ เอกราช-วัฒนา ในภาคอีสานถือว่าไม่ธรรมดาอย่าง “วัฒนา ช่างเหลา” ก็เอาชนะ อรอนงค์ สาระผล จากเพื่อไทย ภรรยา ภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ที่รับโทษคดีจำนำข้าวอยู่มาได้แบบขาดลอยหมื่นกว่าคะแนน จนได้เป็นส.ส.ขอนแก่น ซึ่งแม้กลุ่มช่างเหลา จะผิดหวังไม่น้อย ที่นำทีมพลังประชารัฐชนะได้แค่คนเดียว แต่การชนะส.ส.เขตได้ที่ขอนแก่น ที่กระแสเพื่อไทยแรงจัด ก็ถือว่าไม่ธรรมดาแล้ว

การเข้ามาของกลุ่มช่างเหลา จึงน่าจะทำให้ เนวิน-อนุทิน คาดหวังได้ว่า เลือกตั้งรอบหน้า พื้นที่ขอนแก่น  ที่เลือกตั้งรอบหน้าจะมีส.ส.เพิ่มอีกหนึ่งคนเป็น 12 คน ภูมิใจไทยน่าจะพอมีลุ้นสัก 2-3 คน จากเดิมตอนเลือกตั้งปี 2562 ภูมิใจไทย ไม่มีใครให้ลุ้นแม้แต่คนเดียว 

อีกทั้ง เอกราช ก็เป็นนักการเมืองที่มีฐานธุรกิจหลายอย่างในอีสาน จึงน่าจะทำให้ อนุทิน-เนวิน เบาใจได้มากขึ้นว่า มีคนมาช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายทางการเมืองได้ หาก เอกราช เอ่ยปาก ขอดูแลลูกทีมตัวเอง แลกกับ เก้าอี้ รัฐมนตรี ในอนาคต

เช่นเดียวกับการที่ ภูมิใจไทยได้ “เฮียเบี้ยว-สมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.โคราช”เข้าพรรค ก็จะทำให้ พื้นที่โคราช ซึ่งเป็นจังหวัดเป้าหมายหลักจังหวัดหนึ่งของเนวิน-อนุทิน แข็งแกร่งขึ้น

เพราะเฮียเบี้ยว ถือว่ามีลูกเก๋าส์ที่ไม่ธรรมดา ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากอยู่มาหลายพรรค เคยอยู่ไทยรักไทยกับทั้งเนวินและอนุทินมาแล้ว อย่างเลือกตั้งรอบที่แล้ว คะแนนก็ไม่ธรรมดา เอาชนะ นรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล จากภูมิใจไทยที่ได้ที่สองไปแบบขาดลอยหมื่นกว่าคะแนน

เรียกได้ว่า เฮียเบี้ยว ถือเป็นตัวแข็งของโคราชคนหนึ่ง การเข้ามารอบนี้จึงทำให้ทีมภูมิใจไทยในโคราช แข็งแกร่งขึ้นแน่ หลังเลือกตั้งปี 2562 ก็ได้ส.ส.โคราชมาสามคนคือ อภิชา เลิศพชรกมล -พรชัย อำนวยทรัพย์ -วิสิทธิ์ พิทยาภรณ์

ยิ่งเลือกตั้งรอบหน้า โคราช จะมีส.ส.เพิ่มขึ้นจาก 16 คนเป็น 18 คน ทำให้ พื้นที่เลือกตั้งโคราช จะแข่งขันกันดุเดือด ทั้งพรรคเก่า-พรรคใหม่ ซึ่งข่าวว่า เนวิน-อนุทิน หวังจะได้เก้าอี้เพิ่มที่โคราช อย่างน้อยๆ ก็หกคน แม้หลายพรรคก็หวังไว้เยอะเหมือนกัน แต่ของแบบนี้ ลงสนามกันแล้ว ก็ไม่มีใครยอมใคร  ดังนั้น การได้เฮียเบี้ยวมาร่วมทีม จึงทำให้ความมั่นใจในสนามโคราชของภูมิใจไทย ย่อมมีมากขึ้นตามมา 

ที่สำคัญ “พลังดูด” ของภูมิใจไทย ดูแล้ว คงไม่มีแค่ที่สามอดีตส.ส.พลังประชารัฐ แต่คงมีอย่างต่อเนื่องผ่านการดูดแบบ “ทางลับ-ปิดลับ” ในลักษณะ “สัญญาใจ” ต่อกัน

อย่างตอนนี้ ที่หลายคนจับตามองก็คือ “แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย” ลูกสาว อิสระ สมชัย อดีตรมว.พัฒนาสังคมฯอดีตแกนนำกปปส. ที่หลุดจากส.ส.ไปแล้วจากผลพวงคดีกปปส. ไม่แน่เลือกตั้งรอบหน้า อาจย้ายไปภูมิใจไทยก็ได้ หลังมีข่าวว่ามีคนเห็น นางนวลนภา​ สมชัย​ แม่ของ แนน บุณย์ธิดา ไปปรากฏตัวแถวๆ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทยเพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคเมื่อไม่กี่วันมานี้

ซึ่งดูแล้ว ข่าวลือดังกล่าว ถือว่ามีความเป็นไปได้ไม่น้อย เพราะเลือกตั้งรอบที่แล้ว แนน บุณย์ธิดา สมชัย ก็เกือบร่วงเหมือนกัน เพราะเอาชนะ เอกพล ญาวงค์ จากเพื่อไทยมาได้แค่พันกว่าคะแนน ผนวกกับ กระแสประชาธิปัตย์ในอีสาน ก็หาเสียงลำบาก คนลงสมัครส.ส.ก็เหนื่อย ทำให้ กลุ่มของอิสระ สมชัย อาจย้ายพรรคก็ได้ เพราะยังไง ไปอยู่ภูมิใจไทย ก็น่าจะดูแลดีกว่า แถมยังพอมีกระแสในอีสานอยู่บ้าง

โดยหากย้ายมาจริง มันก็เข้าทาง เนวิน-อนุทินและภูมิใจไทย เพราะพื้นที่อีสานใต้ อย่างอุบลราชธานี ที่ผ่านมา ภูมิใจไทย ยังเจาะไม่เข้า อย่างเลือกตั้งรอบที่แล้ว ไม่ได้ส.ส.อุบลราชธานีแม้แต่คนเดียว ดังนั้น หากได้กลุ่มของอิสระ สมชัย มาช่วย น่าจะทำให้ภูมิใจไทย ลุ้นปักธงในอุบลราชธานีที่มีส.ส.12 คนในการเลือกตั้งรอบหน้าได้บ้าง

เท่านี้ยังไม่พอ ข่าวในเชิงลึก ยืนยันมาว่า แกนนำภูมิใจไทย ยังมีแผน “ดูด-ดึง” พวกส.ส. ต่างพรรคให้ย้ายมาภูมิใจไทยอีกหลายคน รวมถึงพวกอดีตส.ส. หรือผู้สมัครส.ส.เขต ตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่มีคะแนนดีๆ ให้ย้ายมาภูมิใจไทยอีกหลายสิบคนด้วย

ซึ่งข่าวบางกระแสบอกว่า อย่างพวกกลุ่มที่เป็นส.ส.อยู่ปัจจุบัน จะไม่ได้มีแค่ กลุ่มของอิสระ สมชัยเท่านั้น แต่มีข่าวว่า ยังจะมี ​ส.ส.พิษณุโลก​ ส.ส.อุดรธานี รวมกันแล้วประมาณสามคน  ย้ายมาภูมิใจไทยอีกด้วย ส่วนจะเป็นใครชื่อยังปิดลับไว้อยู่ ขณะที่ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า “สมฤทธิ์ แทนทรัพย์ และเชิงชาย ชาลีรินทร์ สองส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ” จะย้ายมาภูมิใจไทยเช่นกัน แม้ทั้งสองคน จะมีการปฏิเสธ แต่ของแบบนี้ พอถึงเวลา ก็เปลี่ยนกันได้ ก็เหมือนกับเอกราช ช่างเหลา ซึ่งที่ผ่านมา ยืนกรานมาตลอดว่า ไปไหนไปกันกับ ธรรมนัส พร้อมจะไปอยู่กับพรรคเศรษฐกิจไทยด้วย แต่ครั้นถึงเวลาจริงๆ ก็วิ่งเข้าภูมิใจไทย หน้าตาเฉย

รวมถึงยังมีอีกหลายคนในพลังประชารัฐ ก็มีข่าวว่า อาจกำลังย้ายไปอยู่ภูมิใจไทยเช่น “กุลวลี นพอมรบดี” ส.ส.เขตหนึ่ง ราชบุรี พลังประชารัฐ  ที่เลือกตั้งรอบที่แล้ว ลอยลำชนะเลือกตั้งแบบสบายๆ ก็มีข่าวว่าจะย้ายมาภูมิใจไทยเพราะก่อนหน้านี้ บิดาคือ มานิต นพอมรบดี อดีตส.ส.ราชบุรี ก็เคยอยู่ภูมิใจไทยมาก่อน แต่ย้ายเข้าพลังประชารัฐ ตามกลุ่มของสมศักดิ์ เทพสุทิน แต่มีข่าวว่า สองพ่อลูก “มานิต-กุลวลี” ไม่ค่อยแฮปปี้นักกับการอยู่พลังประชารัฐ เพราะมองว่าผู้ใหญ่ในพรรคไม่ค่อยให้ความสำคัญกับพวกตน  จนมีข่าวว่า แกนนำภูมิใจไทยเลยพยายามชวนให้สองพ่อลูกกลับภูมิใจไทยอีกรอบ

อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า หลังข่าวนี้รั่วออกไป ทำให้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต้องเรียกกุลวลี ไปคุยเป็นการส่วนตัว เพื่อโน้มน้าวให้อยู่กับพลังประชารัฐต่อไป

หลังจากนี้ ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า “พลังดูด” ของ เนวิน-อนุทิน-ภูมิใจไทย จะดูดใครเข้าพรรคได้อีกหรือไม่?

เพราะมีข่าวว่า แกนนำพรรคทาบทามระดับบิ๊กเนมหลายวงการให้เข้าพรรคทั้งนักธุรกิจ-อดีตข้าราชการระดับสูง-เซเลบคนดังในวงการต่างๆ

ซึ่งด้วยการที่ ภูมิใจไทย เป็นพรรคที่ถูกมองว่ามี “กระสุนดินดำ” เพียบพร้อม เพราะมีกลุ่มทุนคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังหลายกลุ่ม ผนวกกับ คนของภูมิใจไทย กุมอำนาจรัฐในกระทรวงหลักไว้หลายแห่ง ทั้งระดับว่าการฯ ทั้งที่สาธารณสุข-คมนาคม-ท่องเที่ยวฯ และช่วยว่าการฯที่มหาดไทย-ศึกษาธิการ-เกษตรฯ ผสมกับคนในพรรคหลายคน เป็นนักการเมือง-นักเลือกตั้งที่เชี่ยวกรากในการวางแผนเลือกตั้ง ทำให้คนที่มาอยู่ด้วย ก็มั่นใจว่า หากย้ายมาภูมิใจไทย โอกาสสอบได้จะมากกว่าสอบตก

ที่สำคัญด้วยวิธีการเล่นการเมืองแบบ ภูมิใจไทย ที่เล่นการเมืองแบบกลางๆ ไม่สุดขั้ว ไม่สุดโต่ง พร้อมเป็นพันธมิตรกับทุกฝ่าย และวางเป้าหมายเป็นพรรคการเมืองแบบมีส.ส.สักอย่างน้อย 60-70 คนเป็นอย่างต่ำ ที่ทำให้พรรคถูกดึงไปร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ทุกขั้ว แม้แต่กับฝ่ายทักษิณ ชินวัตร เรียกได้ว่า การันตีการเป็นพรรครัฐบาลได้สบายๆ

ทั้งหมดจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ ภูมิใจไทย จึงเป็นพรรคการเมืองที่นักเลือกตั้ง นักการเมืองหลายคนหลายกลุ่ม เล็งไว้เป็นอันดับแรกๆ ว่าหากจะย้ายพรรค หรือจะเข้าสู่การเมือง ภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่น่าเข้าไปอยู่ด้วย จึงไม่แปลกที่ ทำไม ภูมิใจไทย จึงเนื้อหอม ในตลาดการเมืองมาร่วมสองปีแล้ว

แสดงความเห็น