“สี่กุมาร” ตั้งพรรค รอบนี้ไม่ง่าย พปชร.ใครจะมาเสริมทัพ

“นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง -อดีตรมว.วัฒนธรรม-อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” ได้ไปยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังอยู่มา 29 ปี เป็น ส.ส. 8 สมัย โดยเจ้าตัวบอกว่า เส้นทางการเมืองต่อจากนี้ จะไม่หวนกลับมาพรรคปชป.แม้อยู่มาค่อนชีวิต และหลังจากนี้ จะเข้าสู่สงครามครั้งสุดท้ายเพื่อทำงานการเมืองกับพรรคใหม่ต่อไป

สำหรับ นิพิฎฐ์ ถือเป็นนักการเมือง คนแรก ก็ว่าได้ ที่ตกเป็นข่าวว่า จะไปร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่กับกลุ่มสี่กุมารเดิม พลังประชารัฐ คืออุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง-อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน อดีตเลขาธิการพรรค พปชร. -สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีต รมว.การอุดมศึกษาฯและกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีต รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ เป็นหัวหน้าทีมคอยกำกับฉากอยู่เบื้องหลัง

คำถามที่คนการเมืองถามกันก็คือ แล้วต่อจากนี้ นอกจาก นิพิฎฐ์แล้ว จะยังมีนักการเมือง-อดีตส.ส. -คนดังจากวงการต่างๆ มีใครอีกบ้าง ที่จะไปร่วมตั้งพรรคกับกลุ่มสี่กุมาร หลัง นิพิฏฐ์ เดินนำทางไปก่อนแล้ว อีกทั้ง ส่วนใหญ่ก็อยากจะรู้ว่า สมคิดและสี่กุมาร เอาจริงกับดีลตั้งพรรคนี้มากน้อยแค่ไหน ?

เพราะอย่างที่เห็น พอกติกาการเลือกตั้งเปลี่ยน จากบัตรใบเดียวเป็นสองใบ มันก็ทำให้ นักการเมือง-กลุ่มคนที่เคยเคลื่อนไหวจะตั้งพรรคการเมือง ถึงกับล่าถอยกันหลายคน ไม่ว่าจะเป็น “พรรคเศรษฐกิจใหม่” ของอดีตปลัดฉิ่ง ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดมหาดไทย หรือ “พรรคเส้นทางใหม่” ของจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำเพื่อไทย ที่เคยออกมาให้ข่าวเรื่องจะเปิดตัวพรรคใหม่เดือนตุลาคมแต่ถึงตอนนี้ หลังประเมินแล้ว เข็นต่อยากและกระแสจุดไม่ติด ทำให้พรรคใหม่ จาตุรนต์ สุดท้าย แท้งตั้งแต่ยังไม่คลอด  

ด้วยเหตุนี้ พอมีข่าว กลุ่มสี่กุมาร จะเปิดตัวตั้งพรรคใหม่ปลายเดือนมกราคมปีหน้า แต่ด้วยกติกาการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งตอนนี้มีพรรคการเมืองตั้งใหม่เกิดขึ้นมากมาย บางพรรค ดูทรงแล้ว ไม่น่าไปได้ไกล เพราะกระแสตอบรับไม่มี ให้สู้เต็มที่ก็คงได้แค่พรรคขนาดเล็ก 5-10 เสียง 

ด้วยเงื่อนไขการเมืองข้างต้น เลยทำให้ คนการเมืองหลายพรรค  จึงไม่ค่อยมั่นใจว่า สมคิดและกลุ่มสี่กุมาร จะเอาจริงหรือไม่ กับการตั้งพรรคการเมืองใหม่ดังกล่าว

เพราะต้องไม่ลืมเด็ดขาดว่า สถานะทางการเมืองของ สมคิดและกลุ่มสี่กุมาร ที่ตอนนี้ไม่มีตำแหน่งการเมืองอะไรทั้งสิ้น อันแตกต่างจากตอนตั้งพรรคพลังประชารัฐ เพื่อทำศึกเลือกตั้งปี 2562 ที่ทั้งหมดมีตำแหน่งรัฐมนตรีกันทุกคน ที่สำคัญ การเกิดขึ้นของพปชร. ต่างก็รู้ดีว่า พรรคมีการซุ่มเงียบวางแผนตั้งพรรคกันมาก่อนเลือกตั้ง 2562 ร่วมๆ สองปีแล้ว โดยมีทีมงานการเมืองของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นคนวางแผนทำพรรคทั้งหมดโดยใช้บ้านพักของพลเอกประวิตรที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ฯ เป็นสถานที่วางแผนตั้งพรรค-หาเงินทุนทำพรรค-ติดต่อนักการเมือง นักธุรกิจ คนดังจากวงการต่างๆ มาเข้าพรรค-จัดทีมเตรียมการเลือกตั้งในแต่ละภาค

โดยที่ กลุ่มสี่กุมาร ที่ช่วงนั้นยังมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีทั้งสี่คน เป็นแค่หุ่นเชิด คอยออกหน้า และทำงานด้านธุรการ เช่น ส่งคนไปจดทะเบียนตั้งพรรคกับกกต. และเปิดตัวเป็นหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรคเท่านั้น

ที่สำคัญ การตั้งพรรคพปชร.และค่าใช้จ่ายตอนเลือกตั้ง กลุ่มสี่กุมาร ไม่ได้ควักเงินก้อนอะไรใส่ลงมาให้เลยแม้แต่น้อย ผนวกกับ ที่พปชร.เติบโตได้อย่างรวดเร็ว เลือกตั้งครั้งเดียว ก็ได้เป็นพรรคอันดับสอง ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และคนของสี่กุมาร รวมถึงดร.สมคิด ก็ได้โควตารัฐมนตรีไปถึงสี่เก้าอี้ โดยที่กลุ่มสี่กุมาร ไม่ได้ออกแรงอะไร นอกจากออกหน้าเฉยๆ จะออกแรงบ้าง ก็ตอนช่วยคิดนโยบายพรรคในการหาเสียงและคอยเดินสายหาเสียงเท่านั้น

เพราะเหตุนี้ หลังเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาลเสร็จ และต่อมา เมื่อกลุ่มสี่กุมาร โดนหลายกลุ่มการเมืองในพปชร.จับมือกันยึดอำนาจกลุ่มสี่กุมาร  ทั้งเก้าอี้รัฐมนตรีและตำแหน่งในพปชร.  จึงไม่มีใครในพปชร.มาคอยช่วยปกป้อง เพราะที่ผ่านมาถือว่ากลุ่มสี่กุมาร ได้ไปเยอะแล้ว

ทำให้ กลุ่มสี่กุมารและดร.สมคิด เลยได้แต่กลืนเลือด เดินออกจากครม.และพปชร. แบบเดียวดาย หลังถูกอดีตลูกพรรคตัวเองยึดอำนาจ

ดังนั้น เมื่อยามนี้ กลุ่มสี่กุมาร กำลังวางแผนตั้งพรรคการเมืองเอง โดยไม่มีอำนาจรัฐคอยหนุนหลังแบบสมัยพปชร. ผนวกกับ บัตรสองใบ ก็ไม่เป็นผลดีกับพรรคเกิดใหม่-พรรคขนาดกลางและเล็ก จึงทำให้ เมื่อมีข่าว กลุ่มสี่กุมาร ตั้งพรรคการเมือง

คนการเมือง จึงตั้งคำถามตัวโตๆว่า

พรรคใหม่ สมคิดและกลุ่มสี่กุมาร จะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ?

แม้จะเริ่มมีกระแสข่าวที่เริ่มออกมาแล้วว่า จะมี “กลุ่มทุน-กลุ่มธุรกิจ” โดยเฉพาะกลุ่มทุนขนาดใหญ่  ที่เคยใกล้ชิดและแนบแน่นกับดร.สมคิด และกลุ่มสี่กุมาร พร้อมจะช่วยสนับสนุน การตั้งพรรคใหม่ดังกล่าวก็ตาม แต่หากกลุ่มทุนมองแล้วว่าพรรคสี่กุมาร ไปไม่ได้ไกล ก็เชื่อได้ว่า คงไม่มีใครจะยอมเสี่ยงด้วย เต็มที่อาจสนับสนุนให้บ้างแต่คงลงไม่เต็มเหมือนตอนตั้งพรรคพชปร.แน่นอน

นอกจากนี้ ก็น่าติดตามว่า แล้วคนที่เคยอยู่พปชร. เคยทำงานใกล้ชิดกับกลุ่มสี่กุมาร โดยเฉพาะ อุตตม-สนธิรัตน์ จะมีใครสนใจย้ายมาอยู่กับพรรคใหม่สี่กุมาร ที่มีข่าวว่ารอบนี้จะให้ สนธิรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค

โดยเมื่อเหลียวมองเข้าไปในพปชร. ก็พบว่า เหลือคนของอุตตม-สนธิรัตน์แค่ไม่กี่คนเท่านั้น เพราะขนาดบางคนที่เคยเป็นคนในกลุ่มอุตตม ตอนนี้ก็ชิ่งออกไปนานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรมช.แรงงาน ก็ออกจากกลุ่มอุตตมนานแล้วตั้งแต่หลังเลือกตั้ง หรือ “วิเชียร ชวลิต อดีตปลัดมหาดไทย” ที่เคยร่วมตั้งพรรคกับอุตตม-สนธิรัตน์ ตอนนี้ ก็มีบทบาทเป็นประธานคณะทำงานยกร่างแก้ไขกฎหมายลูกของวิปรัฐบาล และทำท่าจะอยู่กับพปชร.ต่อไป 

ส่วนส.ส.กรุงเทพมหานครและอดีตผู้สมัครส.ส.กทม.ที่สอบตกแต่คะแนนดี  ที่หลายคนเคยได้รับการสนับสนุนจากอุตตม-สนธิรัตน์ เช่น ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพปชร. ตอนนี้ก็เป็นสายตรงของนายกฯ ไปแล้ว เช่นเดียวกับ ส.ส.กทม.อย่าง ภาดาท์ วรกานนท์-ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์-ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ก็น่าจะอยู่กับพปชร.ต่อไป 

ทำให้ที่เห็นชัดๆว่ามีออกจากพปชร.ไปอยู่กับสี่กุมารนานแล้วก็มีแค่ไม่กี่คนและส่วนใหญ่เป็นพวกสอบตกอย่างเช่น วัชระ กรรณิการ์ ที่เคยเป็นโฆษกกระทรวงพลังงาน เป็นทีมงานหน้าห้องสนธิรัตน์มาก่อน 

กลุ่มที่น่าจับตามองในพปชร.ว่า อาจจะไปร่วมงานกับกลุ่มสี่กุมาร จึงมีการมองไปที่กลุ่มพวกส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มากกว่า เพราะหลายคนเห็นชัดว่า เป็นคนของสมคิด-อุตตม และตอนนี้ก็แทบไม่ได้มีบทบาทอะไรในพรรคพปชร. ไม่ว่าจะเป็น สันติ กีระนันทน์ อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี รมว.อุตสาหกรรม สมัยอุตตม เป็นรมว.อุตสาหกรรม -พรชัย ตระกูลวรานนท์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่สนิทกับ ดร.สมคิด รวมถึงแม้แต่กับ มาดามเดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี ที่เคยแหกมติพรรคในการโหวตออกเสียงตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ของแบบนี้ ต่อให้ไปไล่ถามกันทีละคนในพปชร. ก็คงได้รับการปฏิเสธกันหมด เพราะเรื่องการย้ายออก-หาพรรคใหม่ พวกนักการเมือง จะรอดูทิศทางลมจนแน่ใจว่าไปแล้วดีกว่าเดิม ถึงจะตัดสินใจแต่หากไม่ชัวร์ก็คงอยู่พรรคเดิมต่อไป เรื่องแบบนี้  ไม่มีใครปริปากก่อนถึงเวลา

เปิดตัวพรรคใหม่ สมคิดและกลุ่มสี่กุมาร ปลายเดือนมกราคมปีหน้า หากไม่เลื่อนออกไปเสียก่อน หรือดีลการตั้งพรรคเกิดมีปัญหา จนแผนที่วางไว้ล้มกลางคัน จึงต้องรอดูจะมีอะไรเซอร์ไพรส์หรือไม่

แสดงความเห็น