ล้วงลึก-ทะลวงดีลลับ บิ๊กการเมือง ต่อรองรวมพรรค 

เห็นหลายพรรคการเมืองเคลื่อนไหวเตรียมการเลือกตั้งกันคึกคักในช่วงปลายปี 2565  เรียกได้ว่าทุกพรรคมีกิจกรรมให้ทำต่อเนื่องเพื่อชิงพื้นที่สื่อและสร้างกระแสพรรค 

กระนั้น เห็นคึกคักกันตอนนี้ บอกไว้เลยว่า ปีหน้า เปิดศักราชปี 2566 มา ไล่ตั้งแต่มกราคม ทุกพรรคการเมือง ทั้งพรรคฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน พรรคตั้งใหม่ จะขยับ-เคลื่อนไหวมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้อีกหลายสิบเท่า จะได้เห็นกิจกรรมการเมืองของแต่ละพรรคที่จะเริ่ม ปักหมุด ทำกิจกรรมแบบยาวๆ ไปตลอดจนถึงการเลือกตั้งกันเลยทีเดียว 

ขณะเดียวกัน อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจในความเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง ก็คือ ความพยายามปรับตัว-ปรับทัพสู้ศึกเลือกตั้ง ของแต่ละพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคที่กระดูกการเมือง-พรรษาการเมืองยังไม่แกร่งพอ เป็นพรรคเล็กที่ทุนไม่หนา ขุมกำลังสู้พรรคใหญ่ไม่ได้ ซึ่งแกนนำพรรคนั้นๆ รู้ตัวดีว่า หากไม่ปรับทัพ ก็อาจไปไม่ได้ไกลในสนามเลือกตั้งที่จะมีขึ้น 

วิธีการหนึ่งที่หลายพรรคการเมืองทำก็คือ “การเจรจาควบรวมพรรค” เพื่อผนึกกำลังกันสู้ศึกเลือกตั้ง หรือพูดง่ายๆ จับมือกันเพื่อหนีตาย เอาตัวรอด ให้ตัวเองและพรรคมีที่ยืนการเมืองหลังเลือกตั้งนั่นเอง 

ซึ่งโมเดลดังกล่าว พรรค “ชาติพัฒนา” ของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ”กับ “กล้า” ของกรณ์ จาติกวณิช ทำไปล่วงหน้าก่อนแล้วแต่ไก่โห่ โดยไม่ต้องรอเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง จะออกมาเป็นหาร 100 หรือหาร 500 ปาร์ตี้ลิสต์ 

ต้องไม่ลืม “สุวัจน์-กรณ์” ไม่ใช่ “เบบี้ทางการเมือง-ไร้เดียงสาในการเลือกตั้ง” จนไม่รู้ว่าหากแต่ละคน เข็น ทั้งชาติพัฒนาและกล้า ลงเลือกตั้ง ยังไงก็ไม่รอด ต่อให้กติกาเลือกตั้งออกมาเป็นหาร 500 ให้เบ่งเต็มที่ พรรคพอมีกระแส ทั้ง สุวัจน์และกรณ์ ก็รู้ดีว่า พรรคตัวเองทั้งชาติพัฒนาและกล้า ยังไงก็เป็น “พรรคต่ำสิบ” เผลอๆ ต่ำ 5 ด้วยซ้ำ !

“สุวัจน์-กรณ์” จึงนำร่อง จับมือรวมพรรคไปก่อนคนอื่นนานแล้ว และอย่างที่เห็น ขนาดรวมกันแล้ว “ชาติพัฒนากล้า” ยังลุ่มๆ ดอนๆ  เป็นไปได้สูง อาจได้ส.ส.เขต แค่ นครราชสีมา ฐานที่มั่นของสุวัจน์ แต่ชั่วโมงนี้ โคราช ก็ไม่ง่ายสำหรับสุวัจน์ 

ขนาดรอบที่แล้ว ชาติพัฒนา ยังได้ส.ส.โคราช มาแค่คนเดียว ยังไง รอบนี้ สุวัจน์ ก็เหนื่อย เพราะฐานเสียงที่โคราช หดหายไปเยอะ ถือว่าหมดยุคสุวัจน์แล้ว 

ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่น “กรุงเทพมหานคร” แม้ต่อให้ กรณ์ จะมีทีมงานเดิมจากพรรคกล้า เช่น อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตส.ส.กทม. ประชาธิปัตย์ มาอยู่ด้วย แต่ก็ยากที่ในกทม. พรรคชาติพัฒนากล้า จะเบียดสู้กับ พรรคอื่นๆทั้ง เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ-ก้าวไกลรวมถึง รวมไทยสร้างชาติ หรือพรรคลุงตู่ได้ 

นี้คือตัวอย่างที่เห็นชัด ขนาดรวมพรรคแล้ว ยังลูกผีลูกคน ไม่รู้จะไปได้ไกลแค่ไหน  

แต่ที่น่าสนใจคือ ข่าวในทางลับ เรื่องการขยับของ “สุวัจน์” ที่ใช้โอกาส ในช่วงที่ ดีลรวมพรรคระหว่าง “ส.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” จากสร้างอนาคตไทย กับ “ส.สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” แห่งไทยสร้างไทย มีปัญหา-ติดขัด จนทำให้ ที่สร้างอนาคตไทยกับไทยสร้างไทยจะรวมพรรคกันแล้วใช้ชื่อ “พรรคสร้างไทย” เกิดล่ม หลังคุยกันหลายรอบ ใช้เวลาร่วม 2-3 เดือน แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ สุดท้าย “สมคิด” กับ “สุดารัตน์” เลยล้มโต๊ะการคุยกัน 

ระหว่างนั้นเอง ข่าวว่า สุวัจน์ ถือโอกาสนี้ ต่อสาย ไปคุยกับ กลุ่มสมคิด เพื่อส่งบัตรเชิญว่า สนใจจะมาคุยเรื่องรวมพรรค-จับมือกันกับชาติพัฒนากล้าหรือไม่ เลยเป็นข่าวเรื่องนี้ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ข่าวหลายสายคอนเฟิร์มว่า เป็นเรื่องจริง 

โดยต้องไม่ลืมว่า สายสัมพันธ์ของสุวัจน์กับสมคิดนั้น ก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว และเงื่อนไขที่สุวัจน์ นำมาคุยด้วยกับกลุ่มสมคิด ข่าวว่า ไม่ซับซ้อน และไม่ฝันไกล คือ หากมารวมกันจริง ชาติพัฒนากล้ากับ สร้างอนาคตไทย ก็จะทำพรรคแบบ “พรรคขนาดกลางๆ” ให้ได้ส.ส.สัก 25-35 ที่นั่ง  จนสามารถสอดแทรก ไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้กับทั้งขั้วเพื่อไทยและพลังประชารัฐ พูดง่ายๆ หวังเป็นพรรครัฐบาล เป็นหลัก  ส่วนเรื่องแคนดิเดตนายกฯนั้น ทั้ง “สุวัจน์-กรณ์-สมคิด” รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว  แต่ก็ต้องโหมโรงเรื่องนี้ เพื่อสร้างกระแส

แต่ที่สำคัญคือ วงคุยของสมคิดกับสุวัจน์ เห็นตรงกันว่า หากสองพรรค รวมกันได้จริง จะทำให้พรรคนี้ มี “ทีมเศรษฐกิจ” ที่นำไปหาเสียงได้สบายๆ เพราะมีทั้ง กรณ์ ที่เป็นอดีตรมว.คลัง-สมคิด อดีตรองนายกฯหลายสมัย-อุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง -สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พลังงาน -สุวัจน์ อดีตรมว.หลายกระทรวง ฯ เรียกได้ว่า “ดี-เด่น” กว่าบางพรรค เช่น พลังประชารัฐหรือประชาธิปัตย์ ที่ไม่มีทีมเศรษฐกิจมาหาเสียงได้เสียอีก 

ท่ามกลางข่าวว่า ทิศทางการพูดคุยระหว่าง “สุวัจน์-กรณ์-สมคิด-อุตตม-สนธิรัตน์” เป็นไปได้ด้วยดี  

แต่สำหรับที่ว่า สุดท้ายแล้ว จะมาจับมือกันรวมพรรคกันได้จริงหรือไม่ เรื่องนี้ ข่าวว่า สมคิด-สุวัจน์-กรณ์-อุตตม ขอเวลาหลังปีใหม่ ไม่เกินสองสัปดาห์ น่าจะมีความชัดเจนว่ารวมหรือไม่รวม โดยหากรวมกันไม่ได้ ก็จะจากกันด้วยดี ไม่มีการให้ข่าวดิสเครดิตอีกฝั่ง 

เปิดข้อมูลวงใน พรรคลุงตู่ เดินสายทาบ-ดูด คนเข้ารวมไทยฯ

ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า ไทยสร้างไทย พรรคเจ๊หน่อย ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ส่งคนไปทอดสะพานกับคนของสร้างอนาคตไทย ทำนอง ขอนัดเจอเพื่อขอ “ปัดฝุ่นคุยเรื่องรวมพรรค” อีกครั้ง ทั้งที่ดีลนี้มันจบไปแล้ว คือรวมกันไม่ได้ 

งานนี้เล่นเอา “กลุ่มสมคิด”งงกันไปหมด กระนั้น กลุ่มสมคิด ก็ไม่ได้ปฏิเสธไมตรี ที่ทอดสะพานมาอีกครั้ง แต่ก็ใช้วิธีว่า ขอนัดคุยกันหลังปีใหม่ โดยอ้างว่า ช่วงนี้ แกนนำพรรคต้องเดินสายลงพื้นที่ และมีนัดคุย กินข้าวปีใหม่หลายวง คิวแน่น 

ทว่าลึกๆ แล้ว น่าจะเป็นว่า กลุ่มสมคิด คงขอคุยกับ สุวัจน์ ให้จบก่อนว่าจะเอาอย่างไร หากคุยกับสุวัจน์จบแล้ว ถ้าเงื่อนไข โอเค และดีกว่า ที่เคยคุยกับสุดารัตน์ ก็อาจจบที่การจับมือกับชาติพัฒนากล้าไปเลย 

แต่ถ้า คุยกันไม่ลงตัวกับสุวัจน์ แล้ว สุดารัตน์ จะขอคุยอีกรอบจริง เงื่อนไขต่างๆ ของพรรคเจ๊หน่อย  ก็ต้องลดเพดานลงมา เพราะหากใช้เงื่อนไงเดิม ก็คุยกันไม่จบ เสียเวลา ลือกันว่า หากสร้างอนาคตไทย คุยกับทั้ง สุวัจน์และสุดารัตน์ ไม่ลงตัว กลุ่มสมคิด ก็คงเดินหน้าลุย เข็นสร้างอนาคตไทย ลงเลือกตั้ง จะไม่ไปคุยเรื่องรวมพรรคกับใครอีกแล้ว หลังเสียเวลากับเรื่องนี้ไปเยอะ 

เหตุนี้ ปีหน้า 2566 เรื่องการรวมพรรค ของ “รุ่นใหญ่การเมือง” ทั้ง ส.สมคิด-ส.สุวัจน์-ส.สุดารัตน์ จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องทางการเมืองที่น่าติดตามว่า ดีลนี้จะจบอย่างไร 

ท่ามกลางข่าวสอดแทรกว่า อีกหนึ่งพรรคเล็ก ที่ “ผู้ก่อตั้งพรรค-แกนนำพรรค”ถูกทาบทามให้ย้ายพรรคไปอยู่พรรคตั้งใหม่ที่ใหญ่กว่า ก็น่าสนใจเช่นกัน 

นั่นก็คือกรณี “รวมไทยสร้างชาติ”หรือพรรคลุงตู่ ส่งเทียบเชิญ “ชัช เตาปูน-ชัชวาลล์ คงอุดม”ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และผู้ก่อตั้งพรรค “พลังท้องถิ่นไท” ให้ย้ายเข้าไปร่วมงานกับ รวมไทยสร้างชาติ ตามรอยลูกชาย ชื่นชอบ คงอุดม ที่มาอยู่ตั้งแต่ก่อพรรคนานแล้ว

ข่าวจากฝั่ง พรรคพลังท้องถิ่นไท ให้ข้อมูลว่า การส่งเทียบเชิญ รอบนี้ น่าจะเป็นเพราะว่า แกนนำรวมไทยสร้างชาติ มองว่า ชัช ก็มีฐานเสียงระดับหนึ่งในพื้นที่กทม.แถวๆ บางซื่อ-เตาปูน รวมถึงเป็นคนมีเครือข่ายรู้จักคนหลายวงการ โดยเฉพาะฐานเสียง ท้องถิ่นทั่วประเทศ  ที่พรรคพลังท้องถิ่นไท ทำไว้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้  หากชัช มาที่ รวมไทยสร้างชาติ ก็อาจดึงกลุ่มคนหลากหลายมาร่วมสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติหรือพรรคลุงตู่ ในศึกเลือกตั้งได้ 

คนในพลังท้องถิ่นไท ให้ข้อมูลว่า พลเอกประยุทธ์ และพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เลขาธิการนายกฯ ได้เอ่ยปากชวน ชัช เตาปูน ด้วยตัวเอง และชัช ก็สนใจมาก  แต่ ชัช ได้คุยกับคนในพลังท้องถิ่นว่า หากต้องไปพรรคลุงตู่ ก็จะให้ โกวิทย์ พวงงาม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท เข็นพรรคพลังท้องถิ่นไท ลงเลือกตั้งต่อไป ไม่มียุบพรรค  โดยจะให้งบประมาณไว้ก้อนหนึ่ง

นอกจากนี้ คนในพรรคพลังท้องถิ่นไท ยังบอกอีกว่า หลัง ชัช บอกกับคนในพรรคว่า อาจไปรวมไทยสร้างชาติ ทำให้ คนในพรรค เสนอกับชัชว่า อยากให้ไปคุยกับรวมไทยสร้างชาติว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่สองพรรคนี้ จะผูกเสี่ยว เป็นพรรคพันธมิตรการเมืองกัน โดยหากเป็นไปได้ ก็อยากให้มีการสนับสนุนเรื่องงบประมาณ และการช่วยในเรื่องการหาคะแนนให้ พรรคในระบบบัญชีรายชื่อจำนวนหนึ่ง เพื่อให้พรรคพอมีส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หลังเลือกตั้งสัก 1-2 คน และหากรวมไทยสร้างชาติ ได้เป็นรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ ก็ขอให้เอา พลังท้องถิ่นไท เข้าร่วมรัฐบาลด้วย 

โดยคนในพลังท้องถิ่นไท บอกว่า หลังมีการหารือเรื่องนี้กับ ชัช เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางชัช ก็บอกว่า ถ้ามีโอกาส ก็จะนำไปคุยกับ แกนนำรวมไทยสร้างชาติ ว่า เงื่อนไขนี้ พอเป็นไปได้หรือไม่ หากโอเค ตัว ชัช ก็จะไปร่วมงานที่รวมไทยสร้างชาติด้วย 

เรียกได้ว่า ดีลรวมพรรค ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนเคลื่อนไหว ล้วนมีเรื่องลึกๆลับๆ ในการเจรจาพูดคุย ที่หลายคนคาดไม่ถึงจริงๆ 

แสดงความเห็น