“ชูวิทย์” บุกสภา ยื่น กมธ.ป.ป.ช.สอบเส้นทางการเงิน “สันธนะ” 

“ชูวิทย์” บุกสภา ยื่น กมธ.ป.ป.ช.สอบเส้นทางการเงิน “สันธนะ” แฉโดนไล่ออกจากราชการ ติงจะตรวจสอบคนอื่นต้องดูตนเองก่อน 

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้สอบสวนเส้นทางการเงินนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล จากที่เห็นอยู่บ้านราคาแพง ลูกเมียมีรถหรูมีการใช้จ่ายเงินทั้งๆที่ถูกไล่ออกจากราชการ โดยอ้างว่าทำงานต่างประเทศ ไม่ทราบว่าอยู่บริษัทอะไรเสียภาษีหรือไม่ 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ตนได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนายทุนจีนสีเทา ซึ่งถือว่าตอนนี้เป็นวาระแห่งชาติ จนวันนี้มีการออกหมายจับ “นายหาว เจ๋อ ตู้” ถือว่าตนหมดภาระหน้าที่แล้ว และยินดีมอบข้อมูลต่างๆ ที่แสดงถึงทรัพย์สินของกลุ่มทุนจีนสีเทานี้ ให้พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล​ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปทำตามหน้าที่ต่อ แต่ภายหลังจากที่ตนเผยเผยข้อมูลได้ไม่นานก็มีนายสันธนะ ที่ตนมองว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคม โดยใช้สื่อตีมูลค่าตนเอง เข้ามาที่โรงแรมของตนและป้ายสีว่ามีการมั่วสุมเสพยา มีการอ้างเรื่องอาบอบนวดที่ตนขายไปเมื่อหลายปีก่อน วันนี้ตนจึงยื่นกมธ.ป.ปช. และเชื่อว่า การทำหน้าที่ของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะมีความตรงไปตรงมา ชัดเจน  พร้อมมอบเอกสารหลักฐาน สาเหตุที่ราชการปลดนายสันทนะออกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนายสันธนะได้ขออุทธรณ์แต่ฟังไม่ขึ้น จึงมีคำสั่งใหม่ ให้ไล่ออกจากราชการเป็นการถูกต้องเหมาะสมแล้ว จากนั้นมีการเรียกคืนเครื่องราชถอดยศทั้งหมด เมื่อปี61 เหตุผลเพราะมีการเข้าไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่ดอนเมือง โดยหลังจากนี้ตนยินดีที่ให้เข้ามาให้ข้อมูลกับกมธ.ป.ป.ช. ทั้งในกรณีที่ตนมายื่น หรือกรณีที่นายสันธนะจะมายื่นให้สอบตนก็ตาม 

นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงนายสันธนะ ว่าก่อนที่จะไปตรวจสอบคนอื่นก็ต้องดูเบื้องหลังของตนเองก่อน เพราะเวลาพูดแล้วยังกั๊กให้ไปตีความกันเอง หมดยุคมาเฟีย ทำท่ากร่าง ทั้งๆที่ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบใคร เพราะถูกไล่ออกจากราชการ แสดงท่าทีบุคลิกที่เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง ส่วนตนเป็นลูกผู้ชาย การต่อสู้ของตนไม่จำเป็นต้องอยู่ในสภาเหมือนในอดีต ตนก็ต่อสู้ได้ จนวันนี้มีการออกหมายจับนายทุนจีนสีเทา สิ่งที่ตนพูดถือเป็นประโยชน์  เมื่อมีคนมาขัดขวางมาป้ายสีตนจำเป็นที่จะต้องปกป้องตัวเอง

“ทราบข่าวว่าวันนี้นายสันธนะจะเดินทางมายื่นหนังสือที่นี่ ตนก็จะรอ สังเกตมาหลายครั้งแล้วเมื่อตนไปที่ใดนายสันทนะจะตามมาทีหลังเสมอ ตนจึงมีของมาฝากคือ เกมส์แกะน้ำตาล ที่เป็นเกมส์ในซีรีย์เรื่อง squid Game ไปให้เล่น เพราะชีวิตนายสันธนะอยู่บนเส้นด้ายแล้ว อีกทั้งนายสันธนะไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีขององค์กรเก่า พฤติกรรมแบบนี้ตำรวจด้วยกันก็ไม่เอาด้วย นายสันธนะเป็นหมาหัวเน่า และตนไม่ได้อาศัยสภาแห่งนี้มาพูดถึงพฤติกรรมของนายสันทนะแต่ตนพูดถึงข้อเท็จจริง”

ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายชูวิทย์ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ การเปิดอาบอบนวดก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่อาจจะผิดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด  ยอมรับนายชูวิทย์เป็นคนแน่ที่จะกล้าพบกับนายสันธนะ เพื่อพิสูจน์ความจริง ถ้ามาสร้างปัญหาเมื่อไหร่ภายในสภาก็เป็นหน้าที่ของตำรวจสภาในการดูแลความเรียบร้อยและส่งมอบให้ตำรวจในท้องที่ดำเนินการต่อ ซึ่งตนได้สั่งการไว้แล้ว ทั้งนี้มองว่า ในต่างประเทศประชาชนกล้าที่จะพูดความจริง เมื่อเจอการกระทำความผิด แต่ประเทศไทยมีแต่ไม่อยากยุ่ง กลัวเกิดปัญหา กลัวทำให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ดังนั้นการที่มีคนมาแจ้งเบาะแสเป็นเรื่องที่ดีและอยากให้ไทยก้าวไปสู่จุดนั้นได้ เรื่องทุนจีนถ้านายชูวิทย์ไม่ออกมาพูดตำรวจอาจจะไม่ทราบเรื่องกังกล่าวด้วยซ้ำ ตนในฐานะอดีตตำรวจต้องขอบคุณนายชูวิทย์ และขอให้ประชาชนเลิกกลัวการพูดความจริง

ขณะเดียวกัน นายชูวิทย์ยังเปิดหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ต่อหน้าสื่อมวลชนถึงเที่ยวบินที่เดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ด อีกทั้งยังกล่าวถึงเส้นทางการเงินของนายหาว เจ๋อ ตู้ โดยเฉพาะการบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ 3 ล้านบาท จะมีความเกี่ยวข้องอย่างไร กับใครบ้าง เป็นหน้าที่ของทางการที่จะต้องตรวจสอบ

แสดงความเห็น