แง้มประตูลับ “รทสช.” เซ็ตงาน เตรียมรับ “บิ๊กตู่”

ความเคลื่อนไหวเรื่องการตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของบิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหลังจบเอเปก พบ 2 จุดมูฟเมนต์ที่น่าสนใจ 

จุดแรก พลเอกประยุทธ์ ไม่ให้สัมภาษณ์หลังถูกสื่อถามถึงสองรอบ ทั้งก่อนและหลังประชุมครม.เมื่อวันอังคารที่ 22 พ.ย. ถึงกระแสข่าว ไปคุยเปิดใจกับพี่ป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่บ้านป่ารอยต่อฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย. หลังจบเอเปกแค่หนึ่งวัน เพื่อแจ้งว่าตัดสินใจจะแยกตัวออกไปเพื่อไปที่ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” แต่เป็นการแยกจากกัน ของ 2 ป.ด้วยดี ตามยุทธศาสตร์ แยกกันเดิน -รวมกันหลังเลือกตั้ง 

ซึ่งการที่พลเอกประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามเรื่องดังกล่าว แต่ก็ไม่ปฏิเสธ ทั้งที่ โดยปกติ หากเป็นเรื่องที่ไม่จริง และมีความเซ็นซิทีฟการเมืองสูง พลเอกประยุทธ์ จะปฏิเสธทันที

ดังนั้น เมื่อรอบนี้ พลเอกประยุทธ์ ไม่ปฏิเสธ ในทางการเมือง นั่นหมายถึง “เรื่องนี้มีมูล” 

โอกาส “พี่ป้อม-น้องตู่” แยกทางกันเดิน 

เพื่อไปสร้างฝันคนละดวงแล้วมาจอยกันหลังเลือกตั้ง น่าจะชัดเจนแล้วว่า พลเอกประยุทธ์ ไปรวมไทยสร้างชาติแน่นอน 

ยิ่งเมื่อจับสัญญาณแกนนำพลังประชารัฐกลุ่มต่างๆ หลังมีกระแสข่าว พลเอกประวิตร ไล่เช็คถามรายกลุ่ม-รายคน ใครจะอยู่พลังประชารัฐต่อไป ใครจะย้ายออก ตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย.จนถึงวันที่ 21 พ.ย. จนเห็นท่าทีกลุ่มต่าง ๆ ในพลังประชารัฐ ก็ยิ่งชัด

เพราะแสดงว่า แกนนำกลุ่มต่างๆ รู้ข่าวเรื่องนี้แล้วว่า พลเอกประยุทธ์ ไปรวมไทยสร้างชาติ จากป่ารอยต่อฯแล้ว  

มันเลยทำให้ท่าทีของแกนนำพลังประชารัฐ ถึงคราวต้องเตรียมตัดสินใจแล้ว แต่ตอนนี้พบว่า บางคนก็ไม่รอ ชิงประกาศ แสดงความชัดเจนไปเลยว่า “ลุงตู่อยู่ไหน ก็ไปอยู่ด้วย”

อาทิ “สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน-ผอ.พลังประชารัฐ” ที่ระบุ 

ผมคนจริงใจ จิตใจนักเลง เป็นนักรบ บาดเจ็บบ้าง เป็นเรื่องธรรมชาติ ขออย่าให้ใครมานินทา ว่าเอาแต่ได้ ถึงเวลาต้องแสดงความจริงใจ “คนชลบุรี” จิตใจ นักเลงจริง สมคำว่า “นักเลงเมืองชล” ลุงตู่ ปกป้องดูแล ผมมาตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี จะทิ้งลุงตู่ไปคนเดียว ผมจะเอาหน้ากลับมาบ้าน ได้อย่างไร เสียชื่อ คนชลบุรี หมดสิครับ”

แบบนี้ ชัดแล้วว่า เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ  ออกจากพลังประชารัฐแน่นอน เพื่อไปอยู่กับลุงตู่ที่บ้านหลังใหม่ 

ที่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะพบว่าท่าที สุชาติ กับคนในพลังประชารัฐ  ไม่เหมือนเดิมนานแล้ว  อย่างเช่นการไม่ไปปรากฏตัวที่งานสัมมนาของพลังประชารัฐ ที่จัดกันสองวันที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้  ทั้งที่ สุชาติ เป็นทั้งรองหัวหน้าพรรค-ผอ.พรรค 

แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า สุชาติ ตัดสินใจนานแล้ว ว่าไม่อยู่พลังประชารัฐ  หลังมีข้อบาดหมางหลายเรื่องกับกลุ่มต่างๆ ในพลังประชารัฐ โดยเฉพาะการที่ ถูกส.ส.กลุ่มสมุทรปราการพลังประชารัฐสายบ้านใหญ่อัศวเหม 6 เสียง ลงมติไม่ไว้วางใจ ตอนถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบล่าสุด  แล้ว พลเอกประวิตร กลับไปที่สมุทรปราการ โดยไปให้ท้ายกลุ่มปากน้ำ 

ทำให้ข่าวว่า สุชาติ ผิดหวังอย่างมาก ที่โดน “แทงข้างหลัง” เลยตัดสินใจนานแล้วว่าอยู่พลังประชารัฐต่อไม่ได้ 

ส่วน บางคนก็เริ่มเปลี่ยน จากที่เคยบอกจะปักหลักที่พลังประชารัฐ แต่ตอนนี้ บอก “มีข้อมูลใหม่” อาจจำเป็นต้องตัดสินใจใหม่ โดยเฉพาะท่าทีของกลุ่มสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร แม้ก่อนหน้านี้ ทั้งสมศักดิ์และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ยืนกรานปักหลักที่พลังประชารัฐ แต่ล่าสุด ชักไม่ชัวร์แล้ว 

“ตอนนี้มีข้อมูลใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ จึงทำให้เราต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อตัดสินใจ การเมืองจะเอาเรื่องของความรักความชอบไม่ได้ แต่มันเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องดูให้ครบถ้วน เคยบอกว่าช่วงเดือนมกราคม 2566 แต่ตอนนี้ข้อมูลมันเปลี่ยนแปลงไปอีกแล้ว จึงทำให้ต้องดูข้อมูลกันใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นว่าจะทำอย่างไร” สมศักดิ์ เทพสุทิน ระบุ 

เมื่อเป็นเช่นนี้ เห็นร่องรอยการเมืองแล้วว่า “กลุ่ม-มุ้งต่างๆในพลังประชารัฐ” มีสิทธิ์ “แยกวง” กันหลังจากนี้ ว่าจะอยู่กับลุงป้อม ที่พลังประชารัฐ หรือจะไป รวมไทยสร้างชาติ กับลุงตู่ 

ทว่า ไม่แน่เช่นกัน ในช่วงฝุ่นตลบ อาจจะมี บางกลุ่ม หากสุดท้าย ประเมินแล้ว มี “ทางเลือกที่สาม” ที่ดีกว่า ทั้งพรรคลุงตู่-ลุงป้อม ก็อาจะสวิงไปที่ทางเลือกที่สามเลย คือย้ายไป “พรรคภูมิใจไทย”ให้สิ้นเรื่องสิ้นราว  

จุดที่สอง ที่เป็นมูฟเมนต์การเมืองที่น่าสนใจของพลเอกประยุทธ์ สัปดาห์นี้ ก็คือ กรณี มีข่าวว่า นายกฯ ได้ระบุในวงหารือนอกรอบหลังการประชุมครม.เมื่อ 22 พ.ย.ว่า

“อาจจะอยู่จนครบเทอมจนถึง มีนาคม 2566”

โดยก็มีเสียงสนับสนุน จากแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่อยู่ในวงดังกล่าวเช่น อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่แสดงท่าทีเอาด้วยกับสูตรนี้ 

ที่ก็หมายถึงจะไม่มีการยุบสภาฯ ทั้งปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า อย่างที่บางฝ่ายคาดการณ์กันว่า พอจบเอเปกกระแสนิยมบิ๊กตู่ ดีขึ้นจากก่อนหน้านี้ แล้วปลายปี รัฐบาลอัดแพคเกจประชานิยมต่างๆ ซื้อใจประชาชน เช่น คนละครึ่งเฟสใหม่-เราเที่ยวด้วยกันเฟสใหม่ เพื่อทำแต้ม เรียกคะแนน และถึงตอนนั้น กฎหมายลูก สองฉบับน่าจะมีการประกาศใช้แล้ว ทำให้สามารถจัดเลือกตั้งได้ คนก็คาดการณ์กันว่า พลเอกประยุทธ์ ก็น่าจะยุบสภาฯ ช้าสุด คง ไม่เกินกลางเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ก่อนสภาฯปิดสมัยประชุม 28 ก.พ. เพื่อเป็นการปลดล็อกเรื่องการสังกัดพรรคก่อนลงเลือกตั้ง ที่หากสภาฯครบเทอมแล้วเลือกตั้ง จะต้องสังกัดพรรคที่ลงเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 90 วันจนถึงวันเลือกตั้ง แต่หากยุบสภาฯ ก็จะเหลือแค่ไม่เกิน 30 วันนับถึงวันเลือกตั้ง 

ซึ่งถ้า พลเอกประยุทธ์ ยืนกรานว่า จะขออยู่ครบเทอม ก็เท่ากับ จะทำให้ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วง 7 พ.ค. 2566 ตามที่กกต.เคยทำปฏิทินไว้ 

ถ้าเป็นแบบนี้ การสังกัดพรรคการเมือง คนที่จะย้ายพรรคหรือลงเลือกตั้ง ก็มีเดทไลน์คือต้องสังกัดพรรคที่จะลงเลือกตั้ง ไม่เกินช่วงประมาณ 7-9 ก.พ. 2566 เพื่อให้ครบ 90 วัน 

นี้คือ 2 จุด 2 มูฟเมนต์การเมือง ในรอบสัปดาห์นี้ ที่ประมวลให้เห็นได้ว่า พลเอกประยุทธ์และกลุ่มต่างๆ ในพลังประชารัฐ ตัดสินใจแล้วว่า จะแยกตัวออกไปที่รวมไทยสร้างชาติ ส่วนใครที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะย้ายตามไปหรือไม่  ก็ยังมีเวลาให้ตัดสินใจได้ จนถึงอย่างน้อยก็ก่อนกุมภาพันธ์ 2566 เพื่อให้ทันเดทไลน์การสังกัดพรรคก่อนลงเลือกตั้ง 90 วัน หลังบิ๊กตู่ ส่งสัญญาณ จะขออยู่ครบเทอมสี่ปี 

ด้าน “แหล่งข่าวระดับกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ” ให้ข้อมูลกับ “ทีมข่าวอะเจนด้า” ว่า จากข้อมูลที่ได้รับ ชัดเจนแล้วว่า พลเอกประยุทธ์ จะมาที่รวมไทยสร้างชาติแน่นอน ความเป็นไปได้ของเรื่องนี้เกิน 80 เปอร์เซนต์ไปแล้ว และกลุ่มต่างๆ ในพลังประชารัฐ ก็จะตามมาด้วย เช่น กลุ่มของสุชาติ ชมกลิ่น ที่คาดว่าจะนำส.ส.ในกลุ่มมาอยู่ด้วยไม่ต่ำกว่าสิบห้าคน หรือกลุ่มกทม. พลังประชารัฐ ก็คาดว่าจะมีส.ส.กทม.ปัจจุบันมาอยู่ด้วยประมาณ 5-6 คนที่ชัวร์แล้ว แต่ก็ยังมีอีก 2-3 คน ที่ยังลังเล ว่าจะมารวมไทยสร้างชาติหรือไปพรรคอื่นเช่น ภูมิใจไทย โดยกลุ่มนี้ ที่ลังเล ก็เพราะเกรงใจ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ที่เคยดูแลกันมา ตอนสมัยอยู่พลังประชารัฐ และตอนนี้พุทธิพงษ์ เป็นหัวหน้าทีม กทม.ให้ภูมิใจไทยอยู่  

แหล่งข่าวรายเดิม ให้ข้อมูลอัพเดตอีกว่า ส่วนกลุ่ม 14 ส.ส.ภาคใต้ พลังประชารัฐ  ตอนนี้ พบว่า แตกเป็นสองทาง ปีกแรกบอกว่า จะอยู่กับพลังประชารัฐต่อไป เพราะเกรงใจลุงป้อม และอยู่พลังประชารัฐ ก็มี “กระสุน”ให้ตอนเลือกตั้ง แบบจัดเต็ม ขณะที่ส.ส.ภาคใต้ พลังประชารัฐ อีกปีกหนึ่ง ก็ตัดสินใจแล้วว่า ลุงตู่ไปอยู่ไหน ก็ไปด้วย เพราะกลุ่มนี้รู้ดีว่า กระแสลุงตู่ ยังดีในภาคใต้ และเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่ได้เป็นส.ส.ก็เพราะกระแสลุงตู่ ดังนั้น หากอยู่พลังประชารัฐต่อ โดยไม่มีลุงตู่ มาเป็นตัวช่วยในการหาเสียง มีสิทธิ์สอบตกสูง ยิ่งเลือกตั้งรอบหน้า ภาคใต้แข่งกันแรงมาก ต่อให้ มีกระสุนเต็มแม็ค ก็ใช่ว่าจะชนะเลือกตั้ง หากไม่มีกระแสมาช่วยหนุนอีกทาง ทำให้ส.ส.ภาคใต้ พลังประชารัฐ อย่างน้อย 6-7 คนตัดสินใจแล้วว่า พร้อมจะตามพลเอกประยุทธ์มาที่รวมไทยสร้างชาติแน่นอน 

แหล่งข่าวกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ คนดังกล่าวให้ข้อมูลอีกว่า ตอนนี้ ส.ส.ภาคใต้ พลังประชารัฐ บางส่วน ที่ตัดสินใจจะมารวมไทยสร้างชาติ ก็เริ่มมีการพูดคุยกับคนในรวมไทยสร้างชาติ ที่รับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งภาคใต้ไว้บ้างแล้ว โดยบางคน ก็เกรงว่า หากมาแล้ว จะมีปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน กับคนที่รวมไทยสร้างชาติ วางตัวไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังคุยกันอยู่แต่ยังไม่ถึงกับมีข้อตกลงอะไร เพราะจุดสำคัญคือ ต่างรอพลเอกประยุทธ์ประกาศว่ามารวมไทยสร้างชาติ การหารือถึงจะคุยแบบทางการมากขึ้น  

“คนในพรรคได้สัญญาณมาว่า คาดว่า ความชัดเจนเรื่องพลเอกประยุทธ์ จะพูดว่า มาที่รวมไทยสร้างชาติ เร็วสุดอาจไปถึงกลางๆ เดือนธันวาคมเลยก็ได้ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องรีบประกาศ  ยิ่งหากสภาฯอยู่ครบเทอม แล้วไปเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม ไปบอกเอาตอนช่วงต้นปีหน้า ก็ยังได้”แหล่งข่าวคนดังกล่าวระบุ

แหล่งข่าวกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ข้อมูลอีกว่า ช่วงปลายปีนี้ ในพรรคจะมีการเซ็ตระบบต่างๆในพรรคให้มีความพร้อมในการเลือกตั้งมากขึ้น เช่น เรื่องการเซ็ตทีมยกร่างนโยบายพรรค-การวางแผนเดินสายเปิดสาขาพรรค ตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ที่คาดว่าจะเริ่มรันงานแบบฟูลทีมมากขึ้นหลังปีใหม่ 

“ตอนนี้ ทีมงานในพรรค ก็เริ่มคุยกันว่า หากพลเอกประยุทธ์เปิดตัวแล้วว่า จะมาที่รวมไทยสร้างชาติ หลังจากนั้น พรรคจะนำเสนอ พลเอกประยุทธ์ในการหาเสียงอย่างไร จะต้องเน้นจุดไหน ที่ก็ควรต้องเป็นจุดขายใหม่ๆ ที่นำเสนอแล้ว คนร้องว้าว ขายได้ ตอนนี้เราก็มองๆกันอยู่” แหล่งข่าว กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติให้ข้อมูล ที่น่าสนใจกับทีมข่าว อะเจนด้า ฯ 

ดังนั้น เอาเป็นว่า จนถึงตอนนี้ พลเอกประยุทธ์ มาที่รวมไทยสร้างชาติแน่ ส่วนหลังจากนี้ จะมีอะไร พลิกผัน หรือไม่ รอติดตามเป็นระยะๆ 

แสดงความเห็น