ผบ.ตร.คาด อดีตตำรวจก่อเหตุกราดยิง38ศพ เครียด เมายา หลังเตรียมขึ้นศาลคดียาเสพติดพรุ่งนี้ ระบุพร้อมนำไปถอดบทเรียนป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.แถลงข่าวสรุปเหตุกราดยิงที่จ.หนองบัวลำภู ว่านับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน เพราะผู้สูญเสียเป็นเด็ก รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 38 ศพ โดยผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจ ทางพื้นที่ทราบว่ามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยได้จับกุมเมื่อต้นปีนี้ โดยให้ออกจากราชการไปก่อน พรุ่งนี้ผู้ก่อเหตุน่าจะต้องไปขึ้นศาล คาดว่าน่าจะเครียด และเมายา จึงลงมือสลดดังกล่าว
เมื่อดูจุดเกิดเหตุ คนร้ายมีอาการคลั่งใช้มีดเป็นหลัก ในการก่อเหตุทำให้เด็กเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก หลังออกจากศูนย์เด็กเล็กแล้ว ก่อนใช้ปืนและมีดทำร้ายคนระหว่างทาง และเข้าไปในบ้านตัวเอง ก่อนถูกปิดล้อมและได้จบชีวิตไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการชันสูตรเบื้องต้น
สำหรับผู้ต้องหามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทางผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการดำเนินคดี ในข้อหาครอบครองยาเสพติด โดยได้ไล่ออกไปเมื่อเดือนมิ.ย. โดยผู้ต้องหาเป็นสิบเวร ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติด
โดยอาวุธปืนนั้น เป็นปืน 9 มม. ส่วนตัวที่ซื้อมาใช้เอง จากนี้ตำรวจจะดูรายละเอียดทั้งหมดเพื่อนำมาถอดบทเรียน เราไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น และจะเป็นบทเรียนของตำรวจ และจะหามาตรการเฝ้าระวังคนที่มีพฤติกรรมแปลกๆ และอาจเข้มข้นเรื่องคนติดยาแล้วมีโอกาสคลุ้มคลั่ง ต้องเฝ้าระวังจากตำรวจและสังคมรอบข้าง ให้ไปบำบัด เพื่อไม่ให้มีโอกาสก่อเหตุอีก
ต่อไปการปฏิบัติงานของตำรวจ จะต้องทำงานให้รวดเร็ว และปิดล้อมคนร้ายที่มีอาการคลุ้มคลั่ง ให้มีความพร้อมในการระงับเหตุได้เลย ตอบโต้กับเหตุกราดยิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชุดในพื้นที่ และจังหวัดจะต้องพร้อม วันนี้ทางจังหวัดได้ทำการปิดล้อมที่บ้านหลังเกิดเหตุเลย
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ตกใจมากหลังเกิดเหตุ กว่าจะหนีมาได้ กว่าจะแจ้งเหตุ กว่าตำรวจจะมา เนื่องจากเป็นพื้นที่ชนบท เราก็ทำเร็วสุดแล้ว แต่ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้
ส่วนบ้านผู้ก่อเหตุอยู่ใกล้บ้านพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก เห็นว่าใกล้บ้าน และเด็กไม่มีอาวุธ แต่ตำรวจจะต้องตรวจสอบดูก่อน ทุกอย่างจะนำไปสู่บทเรียน ยอมรับความเป็นจริงว่า เป็นอดีตตำรวจ และเราก็ไม่ได้ปกป้องเขา เรามีการตรวจค้นจับกุมตั้งแต่ต้นปี ให้ออกไปก่อนคดีวินัยจะไม่มีการพิสูจน์ ตอนนั้นไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว
ทั้งนี้การเข้าเป็นตำรวจของผู้ต้องหานั้น ประวัติยาเสพติดไม่น่าจะมีก่อนเข้าเป็น เพราะมีหน่วยงานตรวจสอบอย่างรอบคอบอยู่แล้ว แต่จะต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง
ตอนนี้คนที่เป็นพยานอยู่ในความโศกเศร้า จึงยังไม่ทันได้สอบมาก แต่คนที่ขาดสติคลั่ง ระหว่างเส้นทางจึงลงมือก่อเหตุ เจ้าตัวใช้มีดกับปืนในการทำร้ายผู้อื่น โดยแพทย์จะตรวจเลือดผู้ก่อเหตุว่ามีสารเสพติดในร่างกายมากน้อยเพียงใด จะได้นำมาศึกษาข้อมูล และขอตรวจค้นที่บ้านต่อไป
ขณะนี้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันเยียวยาผู้สูญเสีย ซึ่งอยู่ระหว่างพูดคุยกับครอบครัวผู้จากไป ที่อยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจต่อไป
หลังจากจังหวัดได้รับรายงาน จึงสั่งปิดศูนย์เด็กเล็กในจังหวัดไปทันที เบื้องต้นได้ให้กรมสุขภาพจิตมาเยียวยาผู้สูญเสียแล้ว ตอนนี้สถานการณ์คลี่คลาย และได้ให้ทุกฝ่ายทั้งเอกชนและภาครัฐ ไปชี้แจงกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และประสานขั้นตอนส่วนต่างๆให้เร็วมากขึ้น พร้อมเตรียมสถานที่อำนวยความสะดวกแล้ว สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นเป็นคนในพื้นที่
โดยพรุ่งนี้จะมีการเปิดรับคำขอค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา โดยจะได้จำนวน 1.1 แสนบาท คนเจ็บจะรับค่ารักษาพยาบาลจ่ายตามจริง ค่าขาดรายได้ วันละ 322 บาท ไม่เกิน 1 ปี ตามที่แพทย์ระบุ หากมีอาการสาหัส จ่ายสูงสุด 5 หมื่นบาท