รมว.ยุติธรรม ชี้ 3 ปี การทำงานพัฒนาอย่างเป็นระบบ อำนวยความสะดวก ยึดประโยชน์ปชช.

รมว.ยุติธรรม ชี้ 3 ปีที่ผ่านการทำงานพัฒนาอย่างเป็นระบบ หวังทุกหน่วยในสังกัดช่วยกันทำงานหนักขึ้น อำนวยความสะดวก ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ช่วยชาวบ้านให้ได้มากกว่านี้

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเปิดการประชุมทางวิชาการระดับชาติว่าด้วยงานยุติธรรม ครั้งที่ 19 และปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การปรับกระบวนทัศน์ในการอำนวยความยุติธรรมเพื่อประชาชน ในการรองรับกับความท้าทายในทศวรรษหน้า” ว่า ตนที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ได้กำหนดนโยบายและแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม โดยให้เน้นการอำนวยความยุติธรรมที่ประชาชนและประเทศชาติจะได้ประโยชน์เป็นสำคัญ โดยมองมิติทางสังคมที่ใกล้ชิดกับประชาชนให้มากขึ้น และเปลี่ยนภาระโดยเฉพาะผู้ต้องขังหรือผู้พ้นโทษให้เป็นพลัง โดยส่งเสริมให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ โดยไม่ละเลยมิติความปลอดภัยของสังคม เมื่อครั้งที่ผมเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในเวลานั้นผมเองถูกปรามาสว่าจะทำงานได้จริงหรือ เพราะผมไม่มีความรู้ทางกฎหมาย แต่เมื่อเข้ามาผมเห็นว่า กฎหมายบางอย่างต้องยอมรับว่ามีความล้าสมัย บางฉบับมีอายุมากกว่า 70 ปี จึงได้มีแนวความคิดที่จะจัดทำและปรับปรุงกฎหมายเพื่อประโยชน์ของสังคม โดยตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ผมทำงานกระทรวงยุติธรรมได้เสนอกฎหมายทั้งหมด 10 ฉบับ  มีที่สำเร็จประกาศใช้แล้ว 4 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) หรือกฎหมายปลดล็อกพืชกระท่อม และประมวลกฎหมายยาเสพติด มี 3 ฉบับ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้งานในส่วนของหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม คือ การขับเคลื่อนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหนี้สินของประชาชน อาทิ หนี้ กยศ. หนี้บัตรเครดิต หนี้เช่าซื้อรถยนต์ สามารถแก้ไขปัญหาเชิงระบบในการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ชั้นศาล และลดค่าใช้จ่ายของประชาชน และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรับปรุงขั้นตอนการไกล่เกลี่ยให้ประชาชนเข้าถึงง่าย ผ่านโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนและยุติธรรมพบประชาชน โดยมีแผนจะให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ การเยียวยาผู้เสียหาย เหยื่อในคดีอาญา การช่วยเหลือประชาชนด้วยกองทุนยุติธรรม รวมทั้งการลดความแออัดของผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยจัดตั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ 

“จากสิ่งที่ได้กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า กระทรวงยุติธรรม ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี มีการพัฒนางานไปอย่างมีระบบ ทั้งในเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดที่ตัดวงจรยึดทรัพย์ตั้งแต่รายเล็กไปจนถึงรายใหญ่ กฎหมายที่สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน และกฎหมายที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่าง เช่น พืชกระท่อม ขณะเดียวกันการทำงานเชิงรุกที่เป็นจุดเด่นอีกด้านหนึ่งคือการบริการประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการแก้หนี้สิน การชดเชยเงินผู้เสียหายคดีอาญาและการหาทนายความให้กับประชาชน จากกองทุนยุติธรรม ดังนั้นการทำงานของกระทรวงยุติธรรมในเวลานี้ผมถือว่า มีประสิทธิภาพและครอบคลุมโดยยึดประโยชน์ของสังคมและประชาชนเป็นที่ตั้ง แต่หากต้องการให้สำเร็จมากไปกว่านี้ พวกเราทุกหน่วยงานต้องช่วยกันแม้จะเป็นงานหนัก” นายสมศักดิ์ กล่าว

แสดงความเห็น