ไม่ต้องรอมี ส.ส. ! “กรณ์” นำทีมผู้สมัครพรรคกล้า ลงพื้นที่ช่วยปชช.หาวิธีปลดภาระแก้หนี้นอกระบบ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายนที ศิริธรรมวัฒน์ , นายธีรพงศ์ พงษ์ศิริเดชา ทีมพรรคกล้า กทม. จัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ชุมชนอินทามระ 29 แยก 4 โดยมีประชาชนร่วมรับฟัง โดยเฉพาะคนในชุมชน พ่อค้าแม่ค้า ที่มีปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งส่วนใหญ่จำเป็นต้องนำเงินมาหมุน เนื่องจากรายได้ลดลง เพราะสถานการณ์โควิด-19

นายกรณ์ กล่าวกับชาวบ้านว่า วันนี้พรรคกล้ามารับฟังความต้องการของพี่น้องที่เจอปัญหา เพื่อประสานกับสถาบันการเงินให้เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ ช่วยหาวิธีปลดภาระหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ทำให้รายได้ลดลง แม้รัฐบาลพยายามออกมาตรการเยียวยาต่างๆ แต่เป็นแค่การอุดช่องโหว่ ไม่ได้มาแก้ปัญหาสะสมที่มีอยู่

“สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันไม่มีใครมีไม่มีปัญหาเรื่องหนี้ ซึ่งตนเองเมื่อ 10 ปีก่อน ตอนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคยออกนโยบายที่ยิงตรงแก้ปัญหาระดับประชาชน โดยหนึ่งในเรื่องที่ทำคือการแก้หนี้นอกระบบ ชาวบ้านรับภาระดอกเบี้ยที่สูงเกินสมควร ตั้งแต่ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ร้อยละ 10 หรือร้อยละ 20 ต่อเดือน ดังนั้นการช่วยชาวบ้านอันดับแรกต้องปลดหนี้ให้ หรือหาวิธีทำให้ภาระหนี้สามารถแบกรับได้ด้วยอาชีพปกติ ซึ่งวิธีการที่เคยใช้ คือการเอาเงินจากธนาคารของรัฐ โอนเข้าบัญชีเจ้าหนี้นอกระบบโดยตรง และโอนหนี้มาเป็นของรัฐ โดยลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 1 เพื่อให้ประชาชนมีกำลังจ่าย แบกรับภาระหนี้ได้ โดยปี 2552 มีประชาชนได้รับการช่วยเหลือถึง 5 แสนกว่าคน มีหนี้เสียไม่ถึงร้อยละ 1” นายกรณ์ กล่าว

นายนที ศิริธรรมวัฒน์ ทีมพรรคกล้า กทม. ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการ กล่าวว่า วิธีแก้หนี้นอกระบบ ต้องปิดหนี้ดอกเบี้ยสูง หาเงินหมุนที่ดอกเบี้ยต่ำ โดยให้ประชาชนในชุมชนแจ้งจำนวนหนี้ ดอกเบี้ย รายได้ เงินหมุนทำมาหากิน โดยพรรคกล้าจะเป็นสื่อกลาง ประสานแจ้งปัญหาต่อสถาบันการเงิน

ระหว่างการพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ ออกมาแลกเปลี่ยนปัญหาหลายรูปแบบ บางรายต้องกู้หนี้นอกระบบ เนื่องจากติดโควิด-19 ทั้งบ้าน ต้องกักตัว ทำมาหากินไม่ได้ ติดหนี้มาจนถึงทุกวันนี้ บางรายเป็นหนี้ไปกู้มา 20,000 บาท แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 600 หลายรายภาระหนี้สะสม เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและโรคระบาด กู้จนติดแบล็คลิส จำเป็นต้องไปกู้หนี้นอกระบบ

แสดงความเห็น