ตรวจแถวพรรคเครือข่าย “3ป.” อาจไม่หมดแค่ “รวมไทยสร้างชาติ”

แม้อาจมีเสียงเชิงตั้งคำถาม ด้วยซุ้มเสียงเชิงเย้ยหยันในลักษณะไม่เชื่อมือ-เครดิตของ “แรมโบ้-เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี” ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อมาเปิดหน้าเคลื่อนไหวจัดตั้งพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” ที่ถูกมองว่าอาจจะเป็นการเตรียมการไว้สำหรับเป็นพรรคทางเลือกหรือพรรคอะไหล่ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หากยังไม่วางมือทางการเมือง และไม่ต้องการอยู่ใต้เงาของพลังประชารัฐต่อไป แม้ที่ผ่านมา พลังประชารัฐ จะประกาศมาตลอดว่าจะขอเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯรอบหน้า

พบว่าซุ้มเสียงที่ออกมา หลังการเปิดตัวดังกล่าวของแรมโบ้-เสกสกล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีอาทิเช่น  แรมโบ้ เป็นแค่องครักษ์พิทักษ์ประยุทธ์ เป็นส.ส.สอบตก เลือกตั้งที่แล้วคนโคราชยังไม่เลือก แล้วยังจะมาตั้งพรรคการเมือง – บ้างก็ว่าเดี๋ยวก็เป็นแบบ ไพบูลย์ นิติตะวัน สมัยตั้งพรรคและเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่ชูนโยบายหนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แค่คนเดียว จนต้องยุบรวมมาอยู่กับพลังประชารัฐ เป็นต้น

กระนั้นก็ตาม เสียงวิจารณ์ที่ตามมาดังกล่าว  คนที่วิจารณ์อาจยังไม่ได้แกะรอยถอดรหัสการเมือง และกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ที่ออกมาแล้วหลายเดือนถึงเรื่อง “พรรคสำรองบิ๊กตู่” ที่มีข่าวทำนองนี้ออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังเกิดกรณี ปัญหารอยร้าวในพลังประชารัฐ ที่มีมาตลอด จนมาถึงจุดพีก ตอนช่วงมีข่าว กลุ่มธรรมนัส พรหมเผ่า เคลื่อนไหวการเมืองรวบรวมเสียงส.ส.ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านเพื่อโหวตล้มนายกฯกลางสภาตอนศึกซักฟอกรอบสุดท้ายปีที่แล้ว จนสุดท้ายพลเอกประยุทธ์ ก็ปลด ธรรมนัส ออกจากตำแหน่งรมช.เกษตรฯ และต่อมา มีข่าว บิ๊กตู่และทีมงานการเมืองตึกไทยคู่ฟ้า ประเมินว่า พลังประชารัฐ สุ่มเสี่ยงแพแตก ผนวกกับ กระแสพรรคไม่ขลังเหมือนเดิม

เลยมีข่าวว่า คนการเมืองที่บิ๊กตู่ไว้วางใจ เลยขบคิดกันเรื่องตั้งพรรคสำรอง ไว้ให้ พลเอกประยุทธ์ กรณีฉุกเฉินแบบ “เผื่อเหลือเผื่อขาด” กับการเมืองที่ไม่มีอะไรแน่นอน หากสุดท้าย พลังประชารัฐแพแตก และบิ๊กตู่ แยกวงกับแกนนำพลังประชารัฐบางคน

จนเป็นที่มาของกระแสข่าวการตั้งพรรคสำรอง ที่มีทั้งข่าว พรรคเศรษฐกิจไทย ที่ตอนแรก จะนำโดย อดีตปลัดฉิ่ง ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดก.มหาดไทย แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า พรรคดังกล่าวโดนกลุ่มป่ารอยต่อ ทั้งพลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา -พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ -อภิชัย เตชะอุบล เทกโอเวอร์ไปทั้งหมด เลยทำให้จากที่เตรียมไว้เป็นพรรคสำรอง สำหรับ 3 ป. โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์ เลยกลายเป็นพรรคอะไหล่ ผ่องถ่าย กลุ่มธรรมนัส  จากพลังประชารัฐ มาที่พรรคนี้แทน

และนอกจาก พรรคเศรษฐกิจไทยแล้ว ก็ยังมีอีกสองพรรค ที่มีข่าวตลอดว่าจะเป็นพรรคสำรอง ของพี่น้อง 3 ป. แต่จะเน้นหนักที่การรองรับ พลเอกประยุทธ์มากกว่า นั่นก็คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่สุดท้าย ข่าวลือก็กลายเป็นข่าวจริง หลังการเปิดหน้าอย่างเป็นทางการของ แรมโบ้-เสกสกล 

และนอกจากนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งชื่อที่มีข่าวมานานแล้ว นั่นก็คือ “ไทยสร้างสรรค์” โดยมีกระแสข่าวออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่าเป็นพรรคจัดตั้งใหม่รองรับสถานการณ์การเมืองในอนาคตให้กับเครือข่ายพลเอกประยุทธ์ โดยมีอดีตแกนนำกปปส. -อดีตแกนนำพลังประชารัฐ เป็นคีย์แมนขับเคลื่อนอยู่ข้างหลัง

จนมีคนจิ๊กซอว์การเมืองกันไปว่า คือ “เดอะตั้น-ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรมว.ศึกษาธิการ-อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ” ที่แม้ตอนนี้ จะอยู่ระหว่างสู้คดีกปปส.ในชั้นศาลอุทธรณ์ และตัวเองกับภรรยาคือ นางทยา ทีปสุวรรณ ก็ถูกตัดสิทธิการเมืองด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็มีข่าวว่า ณัฎฐพลและอดีตสองแกนนำกปปส.คือ สกลธี ภัทริยกุล รองผู้ว่าฯกทม.และพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดิจิทัลฯ ที่ยังเล่นการเมืองได้อยู่ ก็ต้องการมี “พื้นที่การเมือง”ของตัวเอง

เลยทำให้พอนายทะเบียนพรรคการเมือง รับรองการจัดตั้งพรรค ไทยสร้างสรรค์ เมื่อเดือนตุลาคม 2564  จากนั้นช่วงธันวาคม 2564 ที่ สกลธี ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จนมีข่าวว่าอาจจะตัดสินใจลงชิงผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคการเมืองตั้งใหม่ มันก็เลย matching ให้มีการเชื่อมโยงไปในทำนอง ณัฏฐพล-สกลธี-พุทธิพงษ์ วางแผนตั้งพรรคการเมือง เพื่อสร้างพื้นที่การเมืองให้กับตัวเองอีกทั้งเตรียมไว้เป็นพรรคสำรองของ พลเอกประยุทธ์ ไว้อีกหนึ่งพรรคเช่นกัน

หลังพบว่า เมื่อปลายปีที่แล้วคือ 22 ธ.ค. 2564 พบว่า ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ กับสกลธี ไปพบพลเอกประยุทธ์ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้น วันรุ่งขึ้น 23 ธ.ค สกลธี ก็ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตามมาทันที เลยทำให้มีคนต่อจิ๊กซอว์กระแสเรื่องพรรคไทยสร้างสรรค์ จะเป็นอีกหนึ่งพรรคสำรองให้กับพลเอกประยุทธ์ยิ่งถูกพูดถึงมากขึ้นไปอีก

แม้ว่ารายชื่อกรรมการบริหารพรรคไทยสร้างสรรค์ จะเป็นชื่อโนเนมการเมืองคือ ธำรงค์ เรืองธุระกิจ เป็นหัวหน้าพรรค ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์และมี ญาณิศา จันทร์เรือง เป็นเลขาธิการพรรค ที่ข่าวว่าทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และร้านอาหาร

อย่างไรก็ตาม ในทางการเมือง ของแบบนี้ ก็รู้กันว่า การจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ส่วนใหญ่พวกนักการเมือง โดยเฉพาะบิ๊กเนมการเมือง ก็มักจะใช้คนสนิท-เครือข่าย-นอมินี ไปยื่นจดแจ้งกับสำนักงานกกต.ทั้งสิ้น แล้วถึงเวลา ก็ค่อยเปิดตัวเมื่อถึงจังหวะเหมาะ หรือไม่ก็ใช้วิธี ไปเทคโอเวอร์หรือเซ้งชื่อพรรคการเมืองที่มีอยู่ในทำเนียบพรรคการเมืองของกกต.แล้วก็มีเปลี่ยนชื่อพรรค-โลโก้พรรค-ตั้งกรรมการบริหารพรรคกันใหม่ อันเป็นวิธีที่พบเห็นกันตามปกติในการเมืองไทย

เอาแค่ตัวอย่างปัจจุบันก็กรณี “พรรคเศรษฐกิจไทยที่ กลุ่มธรรมนัส จะไปอยู่ด้วย” จะพบว่า การยื่นขอจัดตั้งพรรค หัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค ตอนแรก จนถึงตอนนี้ ก็ไม่มีชื่อทั้ง พลเอกวิญช์ -พล.ต.อ.พัชรวาท-อภิชัย เตะชุอุบล ไปเกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น แต่เป็นชื่อ ประสงค์ วรารัตนกุล เป็นหัวหน้าพรรค และเมธาวี เนตรไสว เป็นเลขาธิการพรรค ที่ข่าวว่าเป็นการยื่นตั้งพรรคที่ “เสี่ยโต-อภิชัย” คอยดำเนินการทั้งหมด จนมีข่าวออกมาร่วมเดือนแล้วว่าทั้ง บิ๊กน้อย พลเอกวิชญ์-บิ๊กป็อด พล.ต.อ.พัชรวาท-เสี่ยโต อภิชัย ทั้งสามคน จะมีตำแหน่งสำคัญในพรรคเศรษฐกิจไทยรวมถึงอาจมีชื่อเป็นรัฐมนตรีด้วยซ้ำหากมีการปรับครม.เกิดขึ้น ถ้าการเข้าพรรคเศรษฐกิจไทยของส.ส.กลุ่มธรรมนัส ราบรื่นดีไม่มีปัญหา 

ที่ถึงตอนนี้ แวดวงการเมือง ยังมองว่าพรรคสำรอง พรรคเครือข่ายของ พลเอกประยุทธ์หรือแม้แต่กับพี่น้อง 3 ป. ดูไปแล้ว อาจไม่หมดแค่ที่ “พรรคเศรษฐกิจไทย-รวมไทยสร้างชาติ” อาจจะยังมีรออยู่อีก เพียงแต่ยังจดๆจ้องๆ รอประเมินสถานการณ์ ว่าจะเอาอย่างไร หากคนที่อยู่เบื้องหลังประเมินแล้วว่า เปิดตัวพรรคออกมาแล้ว ขายได้ มีสิทธิ์ได้แชร์เก้าอี้ส.ส.ในสภาฯ และกระแสพลเอกประยุทธ์ยังดีอยู่ ยังขายได้ รวมถึง พลเอกประยุทธ์ ยังไม่ถอดใจ ยังจะเล่นการเมืองต่อ อีกทั้ง ปมปัญหาข้อกฎหมายเรื่องการอยู่ในตำแหน่งแปดปี ต้องเคลียร์ให้ได้ ไม่อย่างนั้น หากเกิดกรณีเช่น ไปยุบสภาฯก่อนสิงหาคมปีนี้ แล้วปมปัญหาเรื่องวาระแปดปี ยังไม่สะเด็ดน้ำ ยังเป็นปัญหาคาราคาซัง ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเช่นพรรคเพื่อไทย นำประเด็นนี้มาดิสเครดิตพลเอกประยุทธ์ตอนหาเสียง มันก็อาจทำให้การจะชูบิ๊กตู่ ให้กลับมาเป็นนายกฯอีกสมัย ก็อาจทำให้หาเสียงได้ไม่เต็มที่ แต่หากทุกอย่างลงตัว ไม่มีอะไรติดขัด หลังจากนี้ ก็อาจมีพรรคใหม่ๆ ชื่อแปลกๆ ที่จะเป็นพรรคในขั้ว “บิ๊กตู่-พี่น้อง 3 ป.” เปิดตัวออกมาอีกแบบ รวมไทยสร้างชาติ ในลักษณะพรรคพันธมิตรกันตามมาอีก ก็เป็นไปได้

สำคัญก็แต่ว่า พรรคต่างๆ ที่จะเปิดตัวออกมาหรือที่เปิดตัวมาแล้ว ในปีกนี้ ไม่ว่าจะเป็น พรรคเศรษฐกิจไทย-รวมไทยสร้างชาติ หรือแม้แต่กับ “สร้างอนาคตไทยของดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และอดีตสี่กุมาร”  ที่ยังไง พรรคนี้  ดูแล้วดีเอ็นเอการเมือง น่าจะเข้ากับพลเอกประยุทธ์-3 ป. มากกว่าฝั่งทักษิณ ชินวัตรและเพื่อไทย สิ่งสำคัญเลยก็คือ  จะเป็นพรรคที่ไปตลอดรอดฝั่งได้แค่ไหน หรือจะจอด เรือแตก ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งใหญ่ อีกทั้งหากลงสนามเลือกตั้งไปแล้ว จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน กับกติกาเลือกตั้งบัตรสองใบ ที่โหดกับพรรคตั้งใหม่-พรรคเล็ก มากกว่าตอนปี 2562 หลายเท่า

เพราะหากสุดท้าย ที่เปิดตัวกันออกมา และกำลังซุ่มรอเปิดตัว หากลงสนามเลือกตั้งไปแล้ว กระดูกไม่แข็งจริง เผลอๆ ยังไม่ทันได้แจ้งเกิดการเมืองตอนเลือกตั้ง  ก็อาจแจ้งดับ ตั้งแต่ยังไม่ทันลงเลือกตั้งเลย  ก็เป็นได้ !!!

แสดงความเห็น