“อิสระ” ป้อง “จุรินทร์-เฉลิมชัย” ของเเพงจากราคาน้ำมันโลกพุ่ง กระทบห่วงโซ่อุปทาน ไม่ใช่ปัจจัยจาก กระทรวงพาณิชย์-เกษตรฯ เท่านั้น
ที่รัฐสภา นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในญัตติด่วน ขอให้สภาฯพิจารณาปัญหาการเเพร่ระบาดของโรค อหิวาห์เเอฟริกาในสุกรและศึกษาเเนวทางช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น ว่า หลายคนพุ่งเป้าโยนบาป ให้กระทรวงพาณิชย์กับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถามว่า ราคาสินค้าหลายตัวเเพงขึ้นจริง ไหมก็เเพงจริง แต่ของไม่ได้แพง ด้วยปัจจัยจากกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯอย่างเดียว แต่แพงเพราะกลไกราคาน้ำมัน และปัจจัยอื่นๆ ที่เหนือการควบคุมด้วย อย่างเช่น วันก่อนตนสั่งเกาเหลาลูกชิ้นปลาเจ้าประจำมารับประทาน ต้องเพิ่มราคาจาก 50 เป็น 60 บาท ไม่ใช่หมู ไม่ใช่ไก่ แต่ปลาทำไมเเพงขึ้น ก็เพราะ เมื่อไหร่ก็ตามที่น้ำมันแพง ก็กระทบต้นทุนรวมของทุกธุรกิจจะขึ้นตาม จากข้อมูลสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ จะเห็นว่า ราคาสินค้าเกษตรนั้นมีความเชื่อมโยงกับราคาน้ำมันดิบโลก โดยธนาคารกลางสหรัฐระบุ ประเทศที่นำเข้าน้ำมันจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด จากเรื่องนี้ ซึ่งไทยนำเข้าน้ำมันดิบเกือบ 7 แสนล้านบาท ต่อปี ทีนี้เมื่อน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนเคยต่ำสุดอยู่ที่ 15$ ต่อบาร์เรล ราคาก้าวกระโดดไปเป็น 88$ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นกว่า 500% คงได้คำตอบแล้วว่าทำไมของถึงแพง ของไม่ได้แพงเพราะกระทรวงพาณิชย์ หรือเพราะกระทรวงเกษตรฯ แต่แพงเพราะกลไกราคาน้ำมัน และปัจจัยอื่นๆ ที่เหนือการควบคุมด้วย
นายอิสระ กล่าวว่า และจะเห็นว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ พยายามแก้ปัญหาอยู่ อาทิ ตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และทำโครงการ “พาณิชย์…ลดราคา” 3,000 จุดทั่วประเทศ จัดรถโมบาย ขายของราคาประหยัด ถึงประตูบ้าน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ ด้วยวงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะที่ ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ในกรณีหมูแพง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เร่งแก้ปัญหาทั้งปริมาณและราคาหมูทั้งระบบ โดยออกมาตรการทั้งแบบเร่งด่วน และระยะยาว อาทิ กระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอ ครม.ให้มีการอนุมัติงบประมาณ 574 ล้านบาท เพื่อแก้ราคาหมูแพง ตนขอฝากฝังเพราะการแก้ปัญหาที่เหนือการควบคุมเช่นนี้ คงทำไม่ได้ในชั่วข้ามคืน อยาก “ฝาก” คือ ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการรับมือกับสึนามิทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะ ปัญหาของแพงวันนี้ ยังเป็นเพียงเหรียญด้านเดียว คือ เกิดจากฝั่งอุปทาน แต่เมื่อเรากำลังจะเปิดประเทศ ความต้องการซื้อจากต่างประเทศก็จะเพิ่มขึ้นมาก ราคาสินค้าก็จะพุ่งทะยานขึ้นไปอีก นี่เป็นเป็นปัญหาอีกด้านของเหรียญ อีกประเด็นที่อยากให้ “ฝัง” คือ ขอให้จัดการให้เด็ดขาดกับคนที่กักตุนสินค้า ฉวยโอกาสขึ้นราคา ช่วยเชือดลิงให้คนเลี้ยงไก่ดู โดยเฉพาะกับพวกรายใหญ่ที่ทำนาบนหลังคน ต้องฝังกลบเสียให้สิ้นซาก
แสดงความเห็น
