เลขา รมว.ยุติธรรม รับเรื่องร้องเรียนเหยื่อโดนหลอกสร้างบ้านน็อคดาวน์ เสียหายกว่า 10 ล้านบาท

เลขา รมว.ยุติธรรม รับเรื่องร้องเรียนเหยื่อโดนหลอกสร้างบ้านน็อคดาวน์ รวมเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ชี้ พฤติกรรมนำรูปเก๊หลอกลวงประชาชนสร้างบ้านให้แต่ไม่มีจริง เตือน เอาจริงส่งดีเอสไอ สืบสวน ลากตัวคนฉ้อโกงเข้าคุกให้ได้หากไม่รีบนำเงินมาคืนผู้เสียหาย  

ที่กระทรวงยุติธรรม ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายกรณีถูกนาย อรัญ เจียไพบูลย์ เจ้าของกิจการรับสร้างบ้านน็อคดาวน์ที่ลงประกาศในเฟซบุ๊ก ชื่อ ซุ้มไพบูลย์ หรือ บ้านไพบูลย์ ฉ้อโกง โดยมีพฤติการณ์หลอกลวงให้ผู้เสียหายทำสัญญารับสร้างบ้านดังกล่าวแล้วรับเงินมัดจำจากผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายทวงถามเนื้องานตามงวด กลับโดนนายอรัญ หลอกลวงนำภาพถ่ายบ้านของคนอื่นมาหลอก ซ้ำเมื่อตรวจสอบคุณภาพงานพบว่า ต่ำกว่ามาตรฐานทั่วไป เมื่อผู้เสียหายแจ้งให้มาแก้ไขกลับโดนบ่ายเบี่ยง กระทั่งไม่สามารถติดต่อนายอรัญได้เลย ผู้เสียหายทั้งหมดจึงมั่นใจว่านายอรัญ มีเจตนาฉ้อโกงประชาชนแต่แรก และยังพบด้วยว่าขณะนี้มีผู้เสียหายไม่น้อยกว่า 35 คน รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท โดยพฤติการณ์ของนายอรัญ จึงไม่ใช่การผิดสัญญาทางแพ่ง แต่มีความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ เมื่อผู้เสียหายไปแจ้งความกลับถูกปฎิเสธโดยให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องทางแพ่ง หรือบางส่วนก็รับแจ้งไว้เป็นหลักฐานแต่ไม่ได้ดำเนินการใด ๆ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 

ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า ตนได้เรียนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรับทราบแล้ว ซึ่งคดีดังกล่าวเกิดเมื่อต้นปี 2563 ต่อเนื่องมาจนถึงปลายปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชนผ่านสื่อโซเชียลโดยให้ทำสัญญาว่าจ้างสร้างบ้านให้ ซึ่งคนที่ฉ้อโกงถือว่ามีความรู้ด้านกฎหมายพอสมควร เพราะรู้ดีว่าการหลอกลวงจัดจ้างสร้างบ้านเป็นแค่คดีทางแพ่ง พฤติกรรมคือหลอกว่ามีการดำเนินการก่อสร้างบ้านให้อยู่อย่างต่อเนื่องแต่ที่จริงแล้วไม่ได้สร้างบ้านน็อคดาวน์จริง แต่ผู้ที่หลอกลวงลืมคิดไปว่าพฤติการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของกฎหมายแพ่ง แต่เป็นการปกปิดข้อเท็จจริงว่าไม่มีโรงงานอยู่จริง ไม่มีการทำงานให้ผู้เสียหาย มีการทำสัญญาว่าจ้างต่าง ๆ โดยการนำหิน ทรายไปวางไว้เฉย ๆ เพื่อตบตา 

อย่างไรก็ตาม ตามหลักการผู้เสียหายต้องรีบไปแจ้งความเอาผิดเพราะคดีมีอายุความ ตำรวจไม่ควรปฏิเสธรับแจ้งความและไม่ควรเพิกเฉยในคดีนี้เพราะพฤติการณ์ชี้ชัดว่าหลอกหลวงประชาชน ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมเราจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตั้งเรื่องสืบสวนข้อเท็จจริงมีใครเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอีกบ้าง และจะต้องสืบเส้นทางการเงินของผู้หลอกลวงอีกด้วย ตนขอฝากไปยังผู้ที่หลอกลวงสร้างบ้านน็อคดาวน์ว่าให้รีบนำเงินของผู้เสียหายมาคืนโดยเร็ว หรือสร้างบ้านตามสัญญาให้แล้วเสร็จถ้ามีอยู่จริง นอกจากนี้ หากมีผู้เสียหายท่านใดที่โดนหลอกลวงเช่นเดียวกันให้เข้ามาร้องเรียนได้ที่กระทรวงยุติธรรม หรือ ที่ยุติธรรมจังหวัดได้ทันที 

แสดงความเห็น