“สมศักดิ์” กำชับหน่วยงานยุติธรรมทั่วประเทศ เตรียมพร้อมช่วงเทศกาลปีใหม่ – ไม่ขัดกรณี ส.ส.เสนอตัดอวัยวะเพศคดีข่มขืน


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมประชุม Video Conference กับหน่วยงานยุติธรรม ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงเทศกาลปีใหม่

โดยนายสมศักดิ์ ระบุว่า  การประชุม Video Conference วันนี้ส่วนตัวได้มอบหมายให้ ป.ป.ส.พร้อมด้วยหน่วยงาน DSI และนิติวิทยาศาสตร์ เข้าไปช่วยตรวจสอบ คนขับรถโดยสาร ป้องปรามการเสพยาเสพติด และการเมาสุรา เพื่อที่จะไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง โดยจะเริ่มตรวจสอบตั้งแต่เย็นวันพรุ่งนี้เป็นต้นไปในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมกำชับมาตรการความปลอดภัยในกรมราชทัณฑ์ ให้ดูเวรยามให้ดี รวมถึงยกตัวอย่างกรณีข้อมูลที่ถูกแฮก เรือนจำจังหวัดชุมพร ซึ่ง Hacker ดังกล่าวก็ได้ชี้แจงและขอโทษ มาแล้ว ตามที่เป็นข่าว ส่วนข้อมูลที่ถูกแฮกไปย้ำว่าไม่ใช่ข้อมูลลับ แต่อาจกระทบต่อสิทธิมนุษยชน

สำหรับกรณีของคนร้ายที่ หลบหนี จากเรือนจำ สงขลา นั้นได้ย้ำให้หมั่นตรวจตาเวรยาม ทั้งนี้มองว่าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร แต่จำเป็นจะต้องไปดูช่องโหว่ของการหลบหนี เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขต่อไป ทั้งตนไม่ติดใจกรณีการหลบหนีเพราะ ไม่เกิน3-5 วันก็สามารถดำเนินการจับกุมตัวกลับมาได้ ซึ่งกรณีนี้ตนได้รับรายงานว่าสามารถจับกุมตัวกลับมาได้แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่เรื่องคนเจ็บคนตายในห้องขัง ตนให้ความสนใจในเรื่องนี้มากกว่า 

เมื่อถามว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมามีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เกี่ยวเนื่องกับหน่วยงานยุติธรรม นอกจากการสั่งกำชับแล้วจะมีมาตรการใด เป็นพิเศษหรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า อย่างกรณีของนายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง ที่ส่วนตัวได้เคยระบุว่าได้มีมาตรการทั้งระยะสั้น 1-7 วัน กับมาตการระยะยาวที่ต้องเป็นกฏหมาย ซึ่งได้จัดทำข้อมูลนักโทษที่กระทำความผิดซ้ำซาก 2 ครั้งขึ้นไป มีประมาณ 23,000 คดี ทั้งคดีข่มขืน ฆาตกรต่อเนื่อง และฆาตกรโรคจิต กลุ่มนี้มีประมาณ 3,000 คน ก็จะคัดกรอง เพื่อสร้างกรอบควบคุมนักโทษกลุ่มนี้ ผลักดันเป็นกฏหมายระยะยาว ส่วนกฏหมายที่จะบังคับใช้ระยะสั้นในการนำนักโทษกลุ่มนี้มากักขังต่อนั้น ก็มีทั้งกฎหมายอาญามาตรา39 และกฏหมายของกรมสุขภาพจิต ที่จะควบคุมกลุ่มนักโทษที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อได้ แต่ต้องได้รับการตรวจจากแพทย์หรือได้รับคำสั่งจากศาล

ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้สภาฯ ผลักดันกฏหมายตัดอวัยวะเพศ กรณีคดีข่มขืน นั้น นายสมศักดิ์ มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของส่วนรวม หากมีแนวคิดที่หลากหลายก็เป็นเรื่องที่ดี และถ้าส.ส.เอาด้วยก็สามารถออกกฏหมายได้ทั้งนั้น โดยเสนอต่อที่ประชุมสภาฯโดยตรง หรือจะร่วมกับกระทรวงยุติธรรม ตนก็ไม่ขัดข้อง เพื่อเป็นเรื่องของความปลอดภัยของประชาชน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวใดๆ เชื่อว่าหากส่วนรวมเห็นด้วย แม้จะขัดต่อความเห็นของนักสิทธิมนุษยชน ก็ต้องถอยเพื่อส่วนรวม หากในสังคมรับได้ตนก็ยินดี ย้ำว่าไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างไร

แสดงความเห็น