“ปิยบุตร-ไอติม” ผิดหวังร่างแก้ รธน. ฉบับ ปชช. ถูกสภาตีตก ลั่นแก้ รธน. หากไม่แตะ ส.ว. – สืบทอดอำนาจ แก้วิกฤตการเมืองไม่ได้ ขออย่าสิ้นหวัง ไม่รู้สถานการณ์ในอนาคต เพราะไม่ใช่ผู้กำกับ
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำกลุ่มรีโซรูชั่น กล่าวภายหลังรัฐสภาลงมติร่างแก้ไข รธน. ฉบับประชาชน กล่าวว่า ตนผิดหวังกับผลมติ เพราะข้อเสนอไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติ และขอย้ำข้อเสนอของเราไม่ได้สุดโต่ง ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบทางการเมือง ตนอยากสร้างระบบการเมืองที่ควรจะเป็น ซึ่งคำว่า “ค ว ร” นั่นคือ ค.คืนศักดิ์ศรี สถาบันทางการเมือง , ว.ไว้ใจประชาชน กำหนดอนาคตตัวเองได้ ไม่มียุทธศาสตร์ชาติมาครอบงำ และ ร.ระบบที่เป็นกลาง ไม่ว่าจะมีความคิดอย่างไร แข่งบนกติกาที่เป็นธรรม ในฐานะผู้ริเริ่มกฎหมายจึงขอขอบคุณสมาชิกรัฐสภาที่โหวตรับหลักการ ผู้อภิปรายที่เป็นประโยชน์ จนท.รัฐสภา และขอโทษประชาชนที่เข้าชื่อกว่า 1.3 แสนคน และประชาชนที่ติดตาม หลังพยายามใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการโน้มน้าว เพราะ รธน. ที่เนื้อหาไม่เป็นธรรม ไม่สามารถแก้วิกฤตการเมืองได้ รธน.ฉบับปี 60 ใช้มา 3 ปี มีการแก้ไข 3 ครั้ง เปรียบเป็น 3 ยก ซึ่งส่วนใหญ่แทบไม่ผ่านเลย แต่ผ่านแค่ 1 ครั้ง คือ ระบบเลือกตั้ง ที่เป็นการสืบทอดอำนาจ ตนจึงขอตั้งคำถามว่านี่หรือเป็นการแก้ไข รธน. ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ รัฐบาล กล่าวเป็นนโยบายไว้ ซึ่งถ้าไม่แตะ ส.ว. และการสืบทอดอำนาจ ก็ไม่สามารถแก้วิกฤตการเมืองได้
นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวว่า ตั้งแต่ รธน.40 การลงชื่อเข้าแก้ไข รธน. ไม่เคยผ่านถึงวาระ 3 เลย ครั้งนี้ตนก็หวังว่าสภาจะฟังเสียงก่นร้องจากนอกสภา แต่เสียงข้างมากยังไม่เปิดประตูการแก้ไข รธน. วาระที่ 1 ที่เป็นการสร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ดังนั้นตนจึงขออย่าสิ้นหวัง เพราะเรายังมีกำลัง มีลมหายใจ ที่จะรณรงค์ต่อไป ถ้าเราไม่ทำ พวกเขาก็จะอยู่กับ รธน. ของพวกเขาต่อไป ในเมื่อประชาธิปไตยทางตรงถูกปิด ตนก็หวังให้ผู้แทนในสภาที่เห็นด้วยนำไปขับเคลื่อนต่อไป หรือนำไปออกแบบเป็นนโยบายในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งพวกเราก็จะกลับเข้ามารณรงค์แก้ไขในการเป็นเสียงข้างมาก ซึ่งที่ผ่านมาการแก้ไข รธน. ทำได้เพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น
สำหรับการเคลื่อนไหวต่อไปต้องมีการพูดคุยกันก่อน ส่วนสถานการณ์จะมีความรุนแรงหรือไม่ ตนไม่สามารถประเมินได้ เพราะตนไม่ใช่ผู้กำกับ ไม่ใช่ผู้ตัดสิน แต่เชื่อว่าผู้แทนสามารถประเมินได้
แสดงความเห็น
