ผู้ช่วยรมว.ยธ.สนองนโยบายเชิงรุก ส่ง กรมคุ้มครองสิทธิฯ เยียวยาสาวไทยถูกสามีต่างชาติทำร้าย

ผู้ช่วยรมว.ยุติธรรม สนองนโยบายเชิงรุก ส่ง กรมคุ้มครองสิทธิฯ เข้าเยียวยาพร้อมแจ้งสิทธิค่าตอบแทนผู้เสียหายทันที หลังพบสาวไทยรายหนึ่งถูกสามีชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายจนสาหัส   

น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนางสาวประภาดา แสงประสิทธิ์ ถูกนายวาอิล มูฮัมหมัด มะหิดีอามีน สามีชาวอียิปต์ทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ว่า ล่าสุดวันที่ 6 ตุลาคม เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้เข้าให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายตามแนวทางยุติธรรมสร้างสุข ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน พร้อมนัดหมายผู้เสียหายให้เจ้าหน้าที่เข้าพบเพื่อแจ้งสิทธิผู้เสียหายในคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544  รวมถึงแนะนำการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม การเรียกค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญา การฟ้องคดีแพ่งฐานละเมิด และการขอรับความช่วยเหลือทางด้านคดีจากกองทุนยุติธรรมเรียบร้อยแล้ว ส่วนความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ นางสาวประภาดา ยังไม่ได้ขอรับความช่วยเหลือแต่อย่างใด

น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ กล่าวอีกว่า จากการวิเคราะห์คดีเบื้องต้น หากผู้บาดเจ็บไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จะมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ ได้แก่ 1. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาลให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท 2. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท 3. ค่าขาดประโยชน์ทำมาหากินระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติแต่จ่ายในอัตราค่าแรงขั้นต่ำในท้องที่จังหวัดที่ประกอบการงานเป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ 4. ค่าตอบแทนความเสียหายอื่นให้จ่ายเป็นเงินตามจำนวนที่คณะกรรมการเห็นสมควร แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งการจ่ายค่าตอบแทนฯจะต้องใช้ดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯในการพิจารณา

แสดงความเห็น