“สมศักดิ์” ยัน ไม่ได้ทิ้งพืชกระท่อม ยังคงเฝ้าติดตามแม้หมดวาระ หวัง อย.เร่งทำค่ามาตรฐานกลางสารไมทราไจนีนในผลิตภัณฑ์ เชื่อจะเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่เต็มตัว ช่วยสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน กระตุ้นเศรษฐกิจได้มหาศาล
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า มีผู้คนถามตนมาเยอะในสื่อโซเชียลมีเดีย ถึงความคืบหน้าของพืชกระท่อมในการนำมาสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เรื่องนี้ตนยังติดตามอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตนจะไม่ได้ดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมแล้ว แต่ไม่ได้ทิ้งในเรื่องนี้ โดยพืชกระท่อมปลดล็อกจากยาเสพติดเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2564 จากนั้นอีก 1 ปีให้หลังเมื่อวันที่ 27 ส.ค.2565 จึงมี พ.ร.บ.พืชกระท่อม เพื่อให้มีกฎหมายรองรับอย่างถูกต้องครบถ้วน ทั้งการนำเข้า-ส่งออก การส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อม เพราะตนเล็งเห็นความสำคัญของพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ และได้ให้ทาง ป.ป.ส. เร่งทำการวิจัย โดยร่วมกับ กระทรวงอุดมศึกษาฯ และสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยต่างๆมากกว่า 30 โครงการ เพื่อพัฒนาส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ รวมทั้งมีการสร้างโรงงานต้นแบบ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสร้างแอปพลิเคชัน เพื่อเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทาง ป.ป.ส.ยังได้ร่วมกับ กรมศุลกากร หารือเรื่องการเชื่อมโยงและพัฒนาระบบการนำเข้าและส่งออกพืชกระท่อม มีการทดสอบระบบงานในระยะที่ 1 ไปแล้วเมื่อเดือน มี.ค.2566 ส่วนการทำอาหารและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตนทราบว่าขณะนี้ยังรอประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข โดยยังอยู่ระหว่างการทดลองวิจัยผลิตภัณฑ์ ซึ่งที่ช้าเพราะทาง อย. ยังหาค่ากลางในการกำหนดสารไมทราไจนีน ในผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมไม่ได้ โดยทาง อย.กำหนดไว้แค่ 0.2 มิลลิกรัม แต่ใน 1 ใบมีประมาณ 1.2-1.6 มิลลิกรัม เราจึงขอให้เพิ่มเป็น 1.0 มิลลิกรัม โดยจะมีการจัดประชุมคณะอนุกรรมการเร่งรัดติดตาม ในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ได้มาตรฐานกลางออกมาเร็วที่สุด
“แม้ว่าขณะนี้ตนไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ แต่ตนยังเฝ้าติดตามงานที่เคยได้ดำเนินการไว้สมัยที่เป็น รมว.ยุติธรรม โดยเฉพาะพืชกระท่อม ที่ตนได้ทำการปลดล็อกหลังจากที่ชาวบ้านรอคอยมานานถึง 78 ปี ทำให้พวกเขาสามารถใช้ได้ตามวิถีชีวิต และยังสร้างเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนเรื่องการทำผลิตภัณฑ์เรายังคงเฝ้ารอกระทรวงสาธารณสุข หวังว่าจะได้ความชัดเจนโดยเร็ว เพราะหากทำผลิตภัณฑ์ได้ จะสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้อีกเยอะ และจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมาก” นายสมศักดิ์ กล่าว