

“สมศักดิ์” ลงพื้นที่ สุโขทัย ติดตามโครงการ “โคล้านตัวต้นแบบ” พบประชาชนสามารถเพาะพันธุ์วัวได้แล้ว 313 ตัว เผยได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สามารถทำงานต่อได้ ยันทำได้จริงหลังที่ผ่านมาทุกคนคิดเป็นนโยบายขำขัน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายมนู พุกประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย (อบจ.) นายเขตพงศ์ กุลนาถศิริ รองนายก อบจ. นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ว่าที่ ส.ส.สุโขทัย เขต 2 พรรคเพื่อไทย นายทวี เกตุขุนทด ปศุสัตว์จังหวัดสุโขทัย และ นายทักษิณ นันทชัย ปศุสัตว์อำเภอศรีสำโรง ประชุมร่วมกับกลุ่มปศุสัตว์ ใน “โครงการโคล้านตัวต้นแบบ” เพื่อรับฟังปัญหา แนวทางในการเลี้ยงโค และแผนการพัฒนาต่างๆ

โดยนายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า โครงการโคล้านตัว เป็นการช่วยเหลือของเอกชน ที่ต้องการส่งเสริมให้มีเกษตรทางเลือก ซึ่งการมอบวัวให้ชาวบ้านได้เริ่มเลี้ยงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงเวลานี้ กว่า 3 ปี 8 เดือน โดยมีชาวบ้านได้วัวไปแล้วทั้งสิ้น 200 ครอบครัว วัวจำนวน 400 ตัว โดยมีลูกวัวแล้วทั้งสิ้น 313 ตัว เป็นตัวผู้ 146 ตัว ตัวเมีย 167 ตัว ส่วนสาเหตุที่ลูกวัวอาจจะดูไม่มาก เนื่องจากผู้เลี้ยงไม่ได้รับวัวพร้อมกัน โดยรายสุดท้ายที่ได้รับวัวจะอยู่ในระหว่างเดือน มีนาคม 2564

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การประชุมร่วมกันในวันนี้ ได้รับฟังปัญหาที่เป็นประโยชน์มากในการที่จะพัฒนาต่อไป เช่น เรื่องราคาวัวตกต่ำ ไม่มีตลาดการส่งออก แหล่งอาหารโภชนาการของสัตว์ที่มีมาตรฐาน วัคซีนป้องกันโรคติดต่อ การผสมพันธุ์ และปัญหาสำคัญคือช่วงอุทกภัย ราคาอาหารวัวจะมีราคาสูง โดยปัญหาเหล่านี้เชื่อว่าเมื่อมีรัฐบาลทุกสิ่งจะดีขึ้นตามลำดับ และตนจะนำปัญหาเหล่านี้สะท้อนกับพรรคเพื่อไทยด้วย
“การริเริ่มนโยบาย โคล้านตัว มีมากว่า 20 ปี ตั้งแต่ผมเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่เวลานี้ก็เป็นนโยบายหาเสียงของหลายพรรคการเมือง ผมเองมีความสุขเพราะสิ่งที่คิดไม่ได้หายไป เมื่อก่อนพูดกับใครมองว่าทำได้หรือ บางคนก็มองเป็นนโยบายตลก เวลานี้ต้องขอบคุณเกษตรกร ที่ทำให้เห็นว่าการเลี้ยงวัวนั้น มีรายได้ ทำได้จริง จากนี้ผมมองว่าภาครัฐต้องกลับมาทบทวนว่าจะทำอย่างไรถึงจะแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ และผลักดันให้เป็นอาชีพหลัก หรือ อาชีพทางเลือกให้กับเกษตรกร” นายสมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า นายสมศักดิ์ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมสถานที่เลี้ยงวัวของชาวบ้านผู้ร่วมโครงการ อีก 4 จุด โดยเริ่มจากการมีวัวเพียง 2 ตัว จนเวลานี้มีการขยายพันธุ์เป็นจำนวนมาก โดย 1.นายสุเทพ บุญทวี มีวัว 9 ตัว 2.นายศรันยู อินหล่อ มีวัว 8 ตัว 3.นายสยาม รุ่งไทย มีวัว 8 ตัว 4.นางสาวนุชนาถ คงเวทย์ มีวัว 7 ตัว

ขณะที่นายสุเทพ เล่าว่า เมื่อก่อนตนได้เงินจากโครงการมา 30,000 บาท แล้วได้เพิ่มเงินส่วนตัวอีก 13,000 บาท รวมทุนเป็น 43,000 บาท เพื่อไปซื้อแม่วัวที่ตั้งท้องอยู่จึงได้ลูกมาด้วย จากนั้นขยายพันธุ์ได้ตัวผู้จะนำไปขาย เพื่อนำเงินไปซื้อตัวเมีย จนเวลานี้ 3 ปีครึ่ง ตนมีวัวทั้งสิ้น 9 ตัว เป็นตัวเมีย 6 ตัวผู้ 3 คิดมูลค่าก็มีเงินกว่า 2 แสนบาท โครงการนี้ทำให้ตนและครอบครัวมีรายได้จากคนที่ไม่มี แต่เวลานี้ก็พอที่จะดูแลครอบครัวได้มากขึ้น
แสดงความเห็น
