“บวรศักดิ์” แจงคืบหน้างานปฏิรูปกฎหมาย เผย กิโยตินกฎหมาย คืบ 885 ฉบับ คาดทำสำเร็จสิ้นปีนี้ เหลือ 209 ฉบับ จ่อเสนอ “นายกฯ” ออกคำสั่งเร่งรัด
การประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ติดตามความคืบหน้างานปฏิรูปประเทศ ประจำเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่าการประชุมดังกล่าว ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ เข้าร่วมประชุม เพื่อนำเสนอรายงานและผลดำเนินการด้วย
โดยมีประเด็นพิจารณาที่น่าสนใจ อาทิ การปฏิรูปด้านกฎหมาย ซึ่งนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมาย และ ประธานกรรมการดำเนินการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน รายงานผลความคืบหน้า ว่า ผลการปฏิรูปคืบหน้าไปมาก ทั้งนี้มีส่วนราชการหารือต่อการไม่ออกกกฎหรือไม่ดำเนินการตามแผนภายใน 2 ปี จะถูกลงโทษตามบทกำหนดโทษทางอาญาหรือไม่ ซึ่งกรรมการพัฒนากฎหมายได้ตอบ เช่น กฎหมายปฏิรูปที่ดิน ที่พบว่าไม่ออกกฎกระะทรวง เรื่องคำนิยามว่าด้วยการปศุสัตว์บางประเภท กรรมการตอบว่าหากไม่ออกภายใน 2 ปี จะมีปัญหาเป็นต้น
นายบวรศักดิ์ ชี้แจงถึงการพิจารณาปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรค ล้าสมัย ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ หรือ กิโยตินกฎหมาย ว่า กฎหมายที่ต้องกิโยตินมีทั้งสิ้น 1,094 เรื่อง และได้ดำเนินการแล้ว 885 กระบวนงาน อาทิ แก้กฎกระทรวง, ระเบียบ, ประกาศซึ่งเป็นกระบวนการภายในของหน่วยงาน ทั้งนี้การยกเลิกได้ใช้วิธีเจรจาเพื่อให้หน่วยงานเห็นชอบร่วมด้วยแทนการออกคำสั่ง นอกจากนั้นยังมี 90 โครงการที่ส่วนราชการแจ้งว่าอยู่ระหว่างดำเนินงาน แต่ยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรและอีก 119 กระบวนการร ระบุว่าไม่แจ้งคำตอบกลับ ไม่คืบหน้า
นายบวรศักดิ์ ชี้แจงด้วยยว่ากรรมการปฏิรูปกฎหมายเตรียมทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พิจารณาในกระบวนงานที่ไม่คืบหน้า ว่า 885 กระบวนงานที่เห็นชอบแล้วต้องทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2564 ส่วนอีก 209 เรื่อง นั้นจะให้นายกรัฐมนตรีออกคำสั่งให้ตอบกลับภายใน 2 เดือนและต้องเร่งรัด
“กรรมการปฏิรูปกฎหมายเร่งด่วน จะพิจารณาถามเหตุผล หากมีเหตุผลจะอนุโลม แต่หากไม่มีเหตุผลจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการ ทั้งนี้ยอมรับว่าการทำกิโยตินกฎหมายยากลำบาก หากจะยกเลิกพระราชบัญญัติ หรือบางบทบัญญัติในพระราชบัญญัติ เพราะต้องเข้าสภาฯ แต่จะทำให้เร็วที่สุด” นายบวรศักดิ์ ชี้แจง
ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ชี้แจงอีกว่า สำหรับกฎหมายที่เตรียมเสนอต่อรัฐสภา คือ การแก้ไขเกณฑ์กำหนดโทษอาญาที่จะปรับใช้กับโทษอาญาที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย กระทบประชาชนและศีลธรรมอันดีของประชาชน ส่วนที่ผิดกฎเกณฑ์เล็กน้อย จะปรับให้เป็นพินัยแทน ซึ่งล่าสุด ครม.เห็นชอบแล้ว ส่งไปยังคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เชื่อว่าจะเข้าสู่รัฐสภาไม่ช้า