ประธานวิปฝ่ายค้าน อภิปรายปิดญัตติไม่ไว้วางใจ ย้ำรัฐบาลล้มเหลวแก้โควิด ยอมรับกับประชาชน ฝ่ายค้านทำดีที่สุดแล้ว แต่ “ประยุทธ์” ไม่ออก ซัด คือนักทำลายประชาธิปไตย
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) อภิปรายสรุปญัตติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยย้ำถึงความล้มเหลวของรัฐบาลต่อการป้องกันโควิด-19 ซึ่งเป็นความผิดของคณะรัฐมนตรี เพราะ 1. รัฐบาลไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ และไม่เตือนภัยประชาชน จากการระบาดในหลายรอบ และมีคลัสเตอร์ทองหล่อ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ซึ่งผู้กำกับเป็นหลาน ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ดำเนินการ 2. รัฐบาลไม่มีวัคซีนให้ประชาชน แม้จะนำเข้าวัคซีนแต่พบว่าไม่มีประสิทธิภาพ กระจายวัคซีนช้า 3. รัฐบาลล้มเหลวเรื่องการตรวจโควิด-19 ให้ประชาชน รวมถึงระบบเข้ารับการรักษา และยารักษา ทั้งนี้ตนยังเชื่อว่าการจัดซื้อวัคซีนของรัฐบาลนั้นมีปัญหาและทุจริต เพราะรัฐบาลไม่นำเอกสารการจัดซื้อและการโอนเงินเพื่อจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค มาแสดงต่อที่ประชุม
“หากได้ผู้นำที่บริหารเป็น ประเทศไทยอาจเจอปัญหาน้อยกว่านี้ แม้นายกรัฐมนตรีบอกว่าทั่วโลกก็เจอโควิด-19 เหมือนกัน แต่ไม่มีประเทศไหนที่คนตายต่ำกว่าระดับความเป็นมนุษย์เหมือนไทย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์มีภูมิปัญญา แต่ระดับไม่ถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เหมือนช่างเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่สามารถสร้างบ้านทั้งหลังได้ ท่านเป็น ผบ.ทบ. เก่งจริง แต่มาเป็นนายกฯ ล้มเหลว” นายสุทิน อภิปาย
ประธานวิปฝ่ายค้าน อภิปรายด้วยว่าฝ่ายค้านขอเปลี่ยนรัฐบาลให้ประชาชนเพื่อให้มีผู้บริหารชุดใหม่ ให้ประชาชนพ้นความป่วย ความตาย ความยากลำบาก ทั้งนี้มีส.ส.บอกขอให้ออกดีๆ แต่นายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่ออก ดังนั้นฝ่ายค้านขอบอกกับประชาชนว่า ทำสุดความสามารถแล้ว อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ตนยังมีหวังที่พรรคร่วม ว่าจะยกมือไม่ไว้วางใจนายกฯ เพื่อให้ของขวัญกับชาวบ้าน แต่หากยังสนับสนุน เคยมีคำเปรียบเทียบว่าหากมีโจรวิ่งเข้าบ้านและเจ้าของบ้านปกป้องให้ที่หลบซ่อน จะโดนคดีอาญาด้วย แต่รัฐสภาไม่ใช่ศาล ไม่ต้องมีคดีอาญา แต่ประชาชนคือศาล หากส.ส.ยังยกมือสนับสนุน ประชาชนจะตัดสินในวันเลือกตั้ง
“ผมมีความหวังลึกๆ ว่าความเป็นนักการเมืองด้วยกันถึงวันหนึ่งจะดีจะเลวคนมาจากการเลือกตั้งต้องคิดถึงประชาชน คราวนี้พิเศษ เพราะใกล้เลือกตั้ง จะได้เดินขึ้นศาลประชานด้วยกัน แต่ตอนนี้ผมต้องบอกประชาชนว่า ความหวังพังแล้ว พังเมื่อวานนี้ ที่ชั้น 3 ผมเชื่อว่าท่านประธานผิดหวังเหมือนกัน ถึงตั้งกรรมการสอบ หากเป็นจริง คนๆ นี้ คือคนทำลายประชาธิปไตย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เหยียบย่ำศักดิ์ศรีรัฐสภา พวกผมไม่ไว้วางใจนานแล้ว แต่ตอนนี้ใจรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” นายสุทิน อภิปรายทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายนายสุทิน ได้นำภาพที่สื่อออนไลน์เผยแพร่ เป็นรูปผู้ชายหิ้วกระเป๋าเดินทางถึง 4 ใบ และแสดงพิกัดว่าที่รัฐสภา มาแสดงต่อที่ประชุมด้วย
ทั้งนี้ก่อนจบ นายชวน ขอให้นายสุทินถอนคำว่า ตายเหมือนหมูเหมือนหมา ซึ่งนายสุทินยอมถอน แม้จะบอกว่า ได้ยกมือขอโทษดวงวิญญาณทั้งหลายแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนหนึ่งของการอภิปรายปิดญัตติ นายสุทิน ได้กล่าวหยอก พล.อ.ประยุทธ์ ตอนหนึ่งว่า มีสีหน้าแจ่มใส ไม่เหมือน 2-3 วันก่อนที่หน้าดำคร่ำเครียด
จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ฐานะประธานที่ประชุม แจ้งว่า การอภิปรายสิ้นสุดแล้ว จากนั้นขอนัดมติว่าจะไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปราย ในวันที่ 4 กันยายน เวลา 10.00 น. และจบวาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ติดตาม ขอปิดการประชุม เมื่อเวลา 20.23 น.
แสดงความเห็น
