ผบช.น. ยัน ผู้ชุมนุมรีเด็มก่อความวุ่นวาย ต้องเข้าปฏิบัติการตามยุทธวิธี จับกุมผู้ชุมนุมได้ 4 ราย

พล.ต.ท. ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.โฆษก บช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมสรุปผลการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมรีเด็ม เเละ วีโว่ ที่หน้าศาลอาญา เมื่อวานนี้  โดยยืนยันว่า ผู้ชุมนุมก่อความวุ่นวาย ปราศรัยด่าทอการทำงานของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ขว้างปาสิ่งของเข้าไปในศาล แม้จะประกาศยุติการชุมนุมช่วง 18.30น. เเต่ยังมีความวุ่นวายต่อ ตำรวจจึงเเจ้งเตือน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.การชุมนุมที่สาธารณะ  ร่วมกันขัดขวางต่อสู้เจ้าพนักงาน ตำรวจประเมินว่า หากไม่เข้ารักษาความสงบ อาจสร้างความเสียหายต่อผู้คนส่วนรวม เเละขณะผลักดันผู้ชุมนุม มีการยิงพลุ ประทัดยักษ์ หัวน็อต ขัดขวาง  เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้อาวุธพิเศษ 

ทั้งนี้ผลปฏิบัติการจับผู้ชุมนุมได้ 4 ราย โดยได้ดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  ชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ตาม ป.อาญา ม.215 มั่วสุมตั้งเเต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวาย คุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท รวมกันต่อสู้ขัดขวาง การทำงานเจ้าหน้าที่  และยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีอื่นๆ  ส่วนการละเมิดอำนาจศาล ศาลอาญาอยู่ระหว่างพิจารณาเเจ้งความดำเนินคดี 

ทั้งนี้พบว่า ผู้ต้องหา ยังมีประวัติการชุมนุมหลายครั้ง มีการดำเนินคดีหลายข้อหา โดยจะพิจารณาโทษเพิ่มและผลปฏิบัติการทำให้ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ มี 4 นาย  รถยนต์ทรัพย์สินราชการเสียหาย 6 คัน ในส่วนทรัพย์สินศาลอาญา อยู่ระหว่างการสำรวจ และจะประเมินอีกครั้ง 

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังระบุด้วยว่า เป็นห่วงว่าการรวมตัวชุมนุม จะกลายเป็นคลัสเตอร์การแพร่ระบาดโควิด ทั้งตำรวจ เเละ ผู้ชุมนุม เพราะทราบว่ามีผู้ชุมนุมติดเชื้อ  ยืนยันว่า ตำรวจมีความจำเป็นต้องดำเนินการผลักดันสลายการชุมนุม  เเละ มีการเว้นระยะห่าง พร้อมฝากถึงผู้ชุมนุม อย่าอ้างว่า ชุมนุมตามสิทธิ์ ขณะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม เเละ ประเทศชาติ 

สำหรับการก่อเหตุ เผชิญหน้าเจ้าหน้าที่ลักษณะคล้ายกับการชุมนุมครั้งก่อนๆ เเต่มีอาวุธเพิ่มเติม คือ การพลุยิงแนวราบ โดยหลังจากนี้ตำรวจมีมาตรการควบคุมผู้ชุมนุมครั้งต่อไป อาจจะต้องสกัดกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งเเต่เริ่มต้นที่จะมีการรวมตัวในจุดนัดหมาย

แสดงความเห็น