ทบ.เข้มกฎเหล็กห้ามกำลังพลยุ่งการเมือง ขู่ หากฝ่าฝืนตั้งกก.สอบฟันวินัย-อาญา

พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.ประกาศชุมนุมต่อเนื่องว่า กองทัพบกมีระเบียบวินัยสำหรับกำลังพล โดยกองทัพบกได้ออกคำสั่งที่ 388 / 2563 ที่กำหนดไว้ว่ากำลังพลสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง รวมถึงการโพสต์ข้อความตามโซเชียลต่างๆ เรามีข้อห้ามชัดเจนและหากกำลังพลกระทำผิด กองทัพบกก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหากพบว่ามีความผิดก็ต้องได้รับโทษ หากเป็นความผิดทางวินัยก็ดำเนินการตามขั้นตอน แต่ถ้าไปเกี่ยวข้องกับคดีอาญาก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะนี้ทหารทำได้เพียงการติดตามข้อมูลข่าวสารการชุมนุมเท่านั้น ยืนยันว่าการชุมนุมเป็นสิทธิของประชาชนที่สามารถทำได้ หากไม่ขัดต่อกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมากรมกำลังพลทหารบกได้ออกคำสั่งได้ออกข้อควรปฏิบัติและข้อไม่ควรปฏิบัติของกำลังพลสังกัดกองทัพบกโดยอ้างอิงจาก1.ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยข้าราชการกลาโหมกับการเมืองพ.ศ 2499 2. คําสั่งกองทัพบกที่ 388 / 2563 ลง 9 ก.ย.2563 เรื่องแนวทางการดำเนินการต่อกำลังพลที่กระทำผิดและหาก ผู้ใดฝ่าฝืนข้อบังคับกระทรวงกลาโหมและคำสั่งกองทัพบกถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาทหารมาตรา 33 ,11 และ 32 ตามแต่กรณี ทั้งนี้ กองทัพบก ได้ทำโปสเตอร์ติดภายในพื้นที่กองบัญชาการกองทัพบก โดยระบุ สิ่งที่กำลังพลสามารถทำได้ดังนี้ 1.การสมัครเข้าเป็นสมาชิกในพรรคการเมืองใดต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงผู้บัญชาการทหารบกทราบ 2. การเข้าร่วมประชุมทางการเมืองในฐานะส่วนตัวได้แต่ต้องไม่สวมเครื่องแบบและไม่ใช้ในเวลาราชการ 3. ปฏิบัติราชการในหน้าที่ด้วยการวางตนเป็นกลางโดยไม่มุ่งหวังประโยชน์ของพรรคการเมืองใดโดยเฉพาะแต่ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล 4. ลงคะแนนเสียง/ แสดงความคิดเห็นส่วนตัวต่อผู้ลงสมัครได้5. การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองสามารถกระทำได้โดยไม่แต่งเครื่องแบบและไม่ใช้เวลาราชการทั้งนี้ในการเข้าร่วมประชุมในที่สาธารณะนั้นต้องเป็นไปอย่างสงบ

ส่วนสิ่งที่กำลังพลไม่สามารถกระทำได้ มีดังนี้1. ไม่กระทำการใดๆอันมีลักษณะพาดพิง ส่อเสียด ล้อเลียน สถาบัน รัฐบาล และผู้บังคับบัญชา 2. ไม่แต่งเครื่องแบบหรือชุดอื่นใดรวมถึงใช้ตราสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความเป็นทหารเข้าร่วมประชุมกับพรรคการเมืองหรือไปร่วมชุมนุมในที่สาธารณะอันเป็นการประชุมที่มีลักษณะทางการเมือง 3. ไม่ประดับเครื่องหมายหรือแต่งเครื่องแบบของพรรคการเมืองเข้าไปในสถานที่ราชการ 4. ไม่บังคับผู้อยู่ในบังคับบัญชา ทั้งโดย ตรงหรือโดยปริยายให้เป็นสมาชิกในพรรคการเมืองใดและไม่กระทำการในทางให้คุณหรือให้โทษ 5. ไม่แทรกแซงในทางการเมืองหรือใช้การเมืองเป็นเครื่องมือเพื่อการทำกิจการต่างๆ 6. ไม่แสดงออกโดยตรงหรือโดยปริยายที่จะเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งในระยะเวลา ที่มีการสมัครรับเลือกตั้ง 7. ไม่โพสต์ข้อความทางการเมืองในเวลาราชการในสถานที่ราชการหรือใช้คอมพิวเตอร์ของราชการรวมถึงห้ามใช้ account ของราชการร่วมกิจกรรมทางการเมืองบนสื่อสังคมออนไลน์

แสดงความเห็น